นายเอก สุวัฒนพิมพ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีลิค คอร์พ (SELIC) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 62 ดีขึ้นหลังควบรวมกิจการของ บริษัท พีเอ็มซี เลเบิล แมทที เรียลล์ จำกัด (PMC) ทั้งในไทยและสิงคโปร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่จะทำให้กลุ่มบริษัทสามารถเพิ่มยอดขายและกำไรในอนาคต โดยบริษัทได้บรรลุข้อตกลงในวันที่ 4 ม.ค.62 และรายได้ของ PMC จะเริ่มรวมเข้าในงบการเงินรวมของบริษัทตั้งแต่ไตรมาส 1/62 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ บริษัทมองว่าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกถือเป็นภูมิภาคที่มีการบริโภคกาวอุตสาหกรรมและสติ๊กเกอร์ติดฉลากมากที่สุดในโลก และมีสัดส่วนการใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงการเติบโตของอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ก็ช่วยกระตุ้นความต้องการของตลาดกาวและสติ๊กเกอร์ฉลากในภูมิภาคนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งบริษัทและบริษัทย่อยมีความแข็งแกร่งในตลาดดังกล่าว และบริษัทยังขยายธุรกิจไปยังตลาดอื่นๆ เช่น ตลาดเฟอร์นิเจอร์ ก่อสร้าง และชิ้นส่วนยานยนต์ สำหรับกลยุทธ์ในปี 62 บริษัทจะมุ่งเน้นในกลยุทธ์ขยายตลาดในประเทศ โดยเฉพาะกาวน้ำและกาวหลอมร้อน บุกตลาดอาหารและเครื่องดื่มอย่างต่อเนื่อง และขยายตลาดสู่ตลาดเฟอร์นิเจอร์ ตลาดยานยนต์ รวมถึงตลาดฉลากและบรรจุภัณฑ์ เนื่องจากการควบรวมกิจการของบริษัทกับบริษัท PMC บริษัทคาดว่าจะสามารถเพิ่มยอดขายกาวน้ำได้อย่างมาก
และสำหรับตลาดต่างประเทศ บริษัทจะพยายามอย่างหนักในการบุกตลาดอาเซียน โดยเฉพาะตลาด CLMV และ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ นอกจากนั้น บริษัทยังมีแผนที่จะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในเวียดนามจากอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์
ส่วนผลการดำเนินงานในปี 61 บริษัทมีผลการดำเนินขาดทุนสุทธิ 10.93 ล้านบาท จากปี 60 มีกำไร 18.85 ล้านบาท เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการเข้าซื้อกิจการ PMC ขณะที่บริษัทมีรายได้รวม 599.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 60 ที่มีรายได้ 595.00 ล้านบาท โดยรายได้ผลิตภัณฑ์กาว Waterbased เพิ่มขึ้น 22.03% และผลิตภัณฑ์กาว Hotmelt เพิ่มขึ้น 12.02% ขณะที่บริษัทปรับทีมขายและใช้เป็นกลยุทธ์หนึ่งในการเพิ่มยอดขายภายในประเทศ ทำให้ยอดขายในประเทศปี 2561 เพิ่มขึ้น 6.8%
"ปี 61 รายได้เราเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 60 โดยผลการดำเนินงานด้านบัญชีจะขาดทุน เนื่องจากมีต้นทุนจากการควบรวมกิจการ PMC แต่เรามั่นใจว่าปี 62 ผลประกอบการหลังการควบรวมกิจการจะดีขึ้นอย่างแน่นอน" นายเอก กล่าว