นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บ้านปู (BANPU) กล่าวว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าปริมาณการขายถ่ายหินรวมเติบโต 47.6 ล้านตัน จากปีก่อนทำได้ 45 ล้านตัน เป็นไปตามยอดขายถ่านหินที่เพิ่มขึ้น แบ่งเป็น ประเทศออสเตรเลีย 14.9 ล้านตัน, อินโดนีเซียและเวียดนามรวม 28 ล้านตัน ส่วนประเทศจีนคาดทรงตัวที่ระดับ 5 ล้านตัน
ขณะที่เป้าหมายรายได้ในปีนี้บริษัทฯ ยังไม่สามารถประเมินได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างรอดูเรื่องของราคาถ่านหินในตลาดโลกที่จะมีการปรับราคาใหม่ในช่วงปลายเดือนมี.ค.62 หรือเดือนเม.ย.62 แต่เบื้องต้นเชื่อว่ายังอยู่ในระดับที่ดี ซึ่งตัวที่จะเข้ามาขับเคลื่อนธุรกิจในปีนี้จะมาจากธุรกิจ Energy Resources หรือ ถ่ายหินและเชลล์แก๊ซ, ธุรกิจ Energy Generation การผลิตพลังงาน และธุรกิจ Energy Technology หรือเทคโนโลยีพลังงาน
ทั้งนี้ยังตั้งเป้าสัดส่วนกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ในปี 63 จะมาจากธุรกิจถ่านหิน 60% จากปัจจุบันอยู่ที่ 75% ,ธุรกิจเชื้อเพลิงทั่วไป Conventional 20%, ธุรกิจพลังงานทดแทน Renewable 10% และธุรกิจ GAS เป็น 12% และตั้งเป้าปี 68 จะมีสัดส่วน EBITDA จากธุรกิจถ่านหินลดลงเหลือ 45% ,ธุรกิจเชื้อเพลิงทั่วไป Conventional เพิ่มเป็น 30%, ธุรกิจพลังงานทดแทน Renewable 15% และธุรกิจ GAS 10% รวมถึงธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน จะขยับเพิ่มขึ้นมาที่ 5%
พร้อมกันนี้บริษัทฯ ได้วางงบลงทุนในปี 62-63 ไว้ที่ 835 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แบ่งเป็น การลงทุนในธุรกิจก๊าซธรรมชาติที่สหรัฐฯ ประมาณ 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อใช้สำหรับซื้อแหล่งก๊าซ , ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน 65 ล้านเหรียญสหรัฐฯ , ธุรกิจโรงไฟฟ้า Conventional จำนวน 60 ล้านเหรียญสหรัฐฯ, ถ่านหิน 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และธุรกิจสมาร์ท เอนเนอร์ยี่ 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ