หุ้น TCMC ราคาพุ่งชนซิลลิ่ง 29.47% มาอยู่ที่ 2.46 บาท เพิ่มขึ้น 0.56 บาท มูลค่าซื้อขาย 18.29 ล้านบาท เมื่อเวลา 9.57 น. โดยเปิดตลาดที่ 2.46 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 2.46 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 2.46 บาท
บมจ. ทีซีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น (TCMC)และบริษัทย่อย ประกาศผลกำไรปี 61 เท่ากับ 270.96 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.36 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่กำไร 218.89 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.42 บาท
พร้อมจ่ายปันผลอัตรา 0.09 บาท/หุ้น โดยวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) ในวันที่ 21 มี.ค.2562
ด้านบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น TCMC จากนี้ไปเชื่อว่าผลประกอบการในปี 2562 จะลดความผันผวนลง ด้วยผลของกำไรปี 2561 ที่ออกมาตามคาด และจ่ายปันผล 0.09 บาท ผลตอบแทน 4.7%
ปี 2562 ทำ New high ต่อหลังผ่านพ้นช่วงการสร้างแบรนด์ ปรับโครงสร้างองกรค์ มีการขยายธุรกิจไปในญี่ปุ่น และเพิ่มสำนักงานขายในต่างประเทศ ทำให้รายได้และกำไรปีนี้จะเติบโตต่อ โดยคาดกำไรปี 2562 ที่ 343 ลบ. (+26% YoY) ปี 2561 เป็นปีแรกของการควบรวม น่าจะทำให้นักลงทุนเข้าใจความเป็น Seasonal ของ TCMC ได้ดีขึ้นและปรับกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นให้เหมาะสมได้ในปี 2562 อย่างไรก็ดี คาดผลประกอบการจะลดลงแรง QoQ ในไตรมาส 1/62 แต่ YoY คาดขาดทุนลดลงหรือมีกำไรเล็กน้อย จากที่ขาดทุนปกติ 9 ล้านบาท ในไตรมาส 1/61
ทั้งนี้ รายได้ไตรมาส 4/61 อยู่ที่ 2,816 ลบ. (+28.5% QoQ, -0.9% YoY) อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 30.3% ลดลงจาก 31.0% ในไตรมาส 3/61 จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าเทียบเงินปอนด์ และเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ดีขึ้นจาก 28.7% ในไตรมาส 4/60 จากสัดส่วนรายได้พรมที่มากขึ้น รายได้ที่เพิ่มขึ้นมาก QoQ แต่ SG&A ค่อนข้างทรงตัวโดยเพิ่มขึ้นเพียง 3.6% QoQ และ -7.6% YoY เป็นไปตามที่ได้ชี้แจงต่อเนื่องในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมาว่าธุรกิจพรมมีค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่เป็นต้นทุนคงที่ทั้งคน และเครื่องจักร เมื่อรายได้ทั้งพรม และโซฟาเข้าสู่ช่วง High season รายได้ที่เพิ่มขึ้นมาก แต่ต้นทุนเพิ่มขึ้นน้อยกว่าทำให้อัตรากำไรจากการดำเนินงานพุ่งเป็น 9.3% จากที่เพียง 4.9% ในไตรมาส 3/61 EBITDA สูงถึง 333 ล้านบาท (+75.2% QoQ, +36.9% YoY) ดอกเบี้ยจ่ายลดลง 12.6% QoQ เป็น 43 ล้านบาท จากการแปลง Bridging loan เป็นหนี้ระยะยาว มีเครดิตภาษีคืนจากการบันทึกไว้สูงไปในช่วง 9 เดือนแรกจำนวน 19 ล้านบาท มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 4 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 204 ล้านบาท (+769.8% QoQ, +136.6% YoY) กำไรปกติอยู่ที่ 200 ลบ. (+484.2% QoQ, +125.8% YoY) เป็นระดับสูงสุดใหม่ของบริษัท ทั้งรายไตรมาสและรายปี
โดยกำไรสุทธิทั้งปี 2561 อยู่ที่ 271 ล้านบาท ใกล้เคียงประมาณการที่ 272 ลบ. ส่วน DE Ratio ปี 2561 เหลือ 1.99x จาก 2.7x ในปี 2560 และ Net IBD/E อยู่ที่ 1.1x จาก 1.6x