WP คาดกำไรปีนี้ดีกว่าปีก่อน จากปริมาณขายเพิ่ม-กำไรพิเศษขายที่ดินภายใน Q2/62 หนุน, ปริมาณขายเพิ่ม 2-3%

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday March 1, 2019 09:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายนพวงศ์ โอมาธิกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงินและบริหารองค์กร บมจ.ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP) คาดว่าแนวโน้มกำไรปี 62 จะเติบโตได้ดีกว่าระดับกำไรสุทธิ 321.48 ล้านบาทในปีที่แล้ว จากการบันทึกกำไรพิเศษการขายที่ดินย่านบางคอแหลม กรุงเทพฯ 1 แปลง ขนาด 1 ไร่ 80.7 ตารางวา ซึ่งบริษัทสามารถขายที่ดินได้สูงกว่าราคาตั้งต้นในการประมูลที่ 130 ล้านบาท โดยที่ดินดังกล่าวมีต้นทุนที่ 63 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถบันทึกกำไรพิเศษได้ภายในไตรมาส 2/62

สำหรับด้านแผนการดำเนินงานปกติในปีนี้ บริษัทตั้งเป้ามีปริมาณขายก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ที่ระดับ 8.4 แสนตัน เพิ่มขึ้น 2-3% จากปีที่แล้ว จากการรับรู้ผลการดำเนินงานในบริษัท ไทยแก๊ส คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้จำหน่าย LPG ที่บริษัทเพิ่งเข้าลงทุน 80% ในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงเพิ่มการขายมากขึ้นในภาคครัวเรือนและอุตสาหกรรมที่มีมาร์จิ้นสูง และตลาดเติบโตราว 3-5% ขณะที่ตลาดภาคขนส่งยังหดตัวราว 3-5% โดยปีนี้คาดว่าสัดส่วนการขายในภาคอุตสาหกรรมจะเพิ่มเป็น 10% จาก 9% ปีก่อน และภาคครัวเรือน เพิ่มเป็น 54% จาก 53% ในปีก่อน ด้านภาคขนส่งยังคงรักษาสัดส่วนการขายที่ 26% ส่วนที่เหลือเป็นการขายในภาคอื่น ๆ

อย่างไรก็ตามในด้านราคาขาย LPG เป็นไปตามการกำหนดของภาครัฐที่ปัจจุบันยังตรึงราคาไว้ระดับเดิมที่ 363 บาท/ถัง 15 กิโลกรัม ซึ่งหากรัฐบาลยังคงตรึงราคาต่อไปในปีนี้ก็คาดว่ารายได้ก็จะเติบโตตามปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากการขาย LPG เกือบทั้งหมดอยู่ภายในประเทศ และมีการส่งออกเพียงเล็กน้อยราว 900-1,000 ตันในปีที่แล้ว และปัจจุบันอยู่ระหว่างเจราจากับโรงกลั่นเพื่อซื้อ LPG เพิ่มหากบรรลุผลก็จะสามารถส่งออกได้มากขึ้นเป็นราว 3-5 พันตันในปีนี้

นายนพวงศ์ กล่าวอีกว่า สำหรับอัตรากำไรสุทธิในปีนี้น่าจะสามารถรักษาได้ใกล้เคียงที่ระดับ 2.15% ในปีที่แล้ว เนื่องจากสามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้ค่อนข้างมีเสถียรภาพแล้ว แต่การที่มีคลังก๊าซ LPG เพิ่มจากการเข้าลงทุนในไทยแก๊ส ก็จะทำให้ภาระการเช่าคลังก๊าซ LPG ลดลงในปีนี้ด้วยเช่นกัน

ปัจจุบันบริษัทมีกระแสเงินสดอยู่ที่ราว 1 พันล้านบาท เพื่อเตรียมรองรับการลงทุนใหม่ ๆ โดยแต่ละปีมีงบลงทุนปกติเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพคลังและดูแลถังก๊าซ LPG ราว 100-200 ล้านบาท แต่อาจจะมีการลงทุนเพิ่มเติมหากจะมีการลงทุนใหม่ในอนาคต

นางสาวชมกมล พุ่มพันธ์ม่วง รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ WP กล่าวว่า แผนงานปีนี้บริษัทเน้นให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจไปสู่การเป็นผู้นำธุรกิจพลังงานอย่างครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ซึ่งธุรกิจที่บริษัทให้ความสนใจเข้าลงทุนเพิ่มคือ กองเรือขนส่ง LPG และการผลิตถังก๊าซ LPG คลังเก็บและบรรจุก๊าซ LPG และการร่วมกับไทยแก๊สเพื่อขยายฐานลูกค้า

นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายฐานลูกค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาค CLMV อย่างเมียนมา รวมถึงมองโอกาสลงทุนธุรกิจเทรดดิ้งในสิงคโปร์ เนื่องจากมองว่ากลุ่ม CLMV เป็นตลาดที่ยังขยายตัวได้อีกมาก เพราะยังมีความต้องการใช้ก๊าซ LPG ค่อนข้างสูง ทั้งในภาคครัวเรือน และอุตสาหกรรม

"ถ้ามอง supply chain ของเรา เราจะอยู่ตรงกลางน้ำ นโยบายและวัตถุประสงค์ที่เราอยากจะบรรลุคือเป็นผู้นำในภาคพลังงานที่ครบวงจร นั่นหมายถึงคุณจะต้อง cover ในส่วนต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ จึงเป็นที่มาที่ไปที่ทำไมเราต้องสนใจในส่วนของเรือ ถ้าจะพูดให้กว้างเพื่อรากฐานที่แข็งแกร่งเราคงต้อง cover supply chain ของเราก่อน แต่ส่วนการศึกษาเทรดเดอร์ที่สิงคโปร์เป็นหน้าที่ของฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ซึ่งถามว่าคุ้มค่าไหมก็ต้องศึกษาก่อน เราไม่ได้หยุดนิ่งที่ LPG เท่านั้น"นางสาวชมกมล กล่าว

ด้านนายสุทัศน์ นิติกรไชยรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ เปิดเผยว่า บริษัทยังเดินหน้าการทำธุรกิจครบวงจรต่อเนื่อง ซึ่งความคืบหน้าการเข้าลงทุนกองเรือ LPG ในประเทศ น่าจะสรุปดีลได้ในปีนี้ หลังเจรจามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีความเป็นไปได้ทั้งการร่วมลงทุนที่บริษัทจะต้องเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ หรือการซื้อกิจการ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนหลายร้อยล้านบาท โดยการลงทุนดังกล่าวคาดว่าจะเกิดขึ้นได้ก่อนดีลการลงทุนอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงการลงทุนธุรกิจถังแก๊สในไทยด้วย

ส่วนโอกาสการลงทุนต่างประเทศ ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรในสิงคโปร์และพันธมิตรต่างชาติเพื่อร่วมทำธุรกิจเทรดดิ้งพลังงานในสิงคโปร์ ทั้ง LPG และอื่น ๆ และมองโอกาสการทำธุรกิจ LPG ในเมียนมา ซึ่งจะเป็นรูปแบบทางธุรกิจเหมือนในไทย ส่วนความคืบหน้าการลงทุนในโซลาร์ฟาร์มเวียดนามนั้น ขณะนี้ได้ยกเลิกการเจรจาลงทุนในบางโครงการหลังพบว่ามีอัตราผลตอบแทนการลงทุน (IRR) ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ไม่ต่ำกว่า 10% แต่ก็มีบางโครงการที่ยังอยู่ระหว่างเจรจาต่อเนื่อง

นายสุทัศน์ กล่าวอีกว่า บริษัทยังมองโอกาสการลงทุนขยายคลัง LPG ในไทยเพิ่มเติม เพื่อรองรับกับการสำรอง LPG ตามกฎหมายที่จะเพิ่มเป็น 2% ของปริมาณการค้าประจำปีในปี 64 โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างคลัง LPG แห่งใหม่ ใน อ.บางปะกง เป็นเฟสที่ 3 จะแล้วเสร็จปลายปี 63

WP มีส่วนแบ่งการตลาดยอดขายก๊าซ LPG ในประเทศ ภายใต้แบรนด์ "เวิลด์แก๊ส" เป็นอันดับ 2 หรือคิดเป็น 18% และมีคลังก๊าซ LPG 6 แห่งใน 5 จังหวัด ขนาดรวม 10,909 ตัน ได้แก่ จ.ลำปาง ,จ.ขอนแก่น ,อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เฟส 1 และเฟส 2 ,จ.สมุทรสงคราม และจ.พิจิตร และเมื่อคลังก๊าซแห่งใหม่แล้วเสร็จ จะมีความจุเพิ่มเป็น 20,409 ตัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ