นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.การบินไทย (THAI) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทได้มติให้เสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2562 ในเดือนเม.ย. เพื่อขออนุมัติโอนทุนสำรองตามกฎหมายและส่วนล้ำมูลค่าหุ้นมาตัดขาดทุนสะสม 2.8 หมื่นล้านบาท (ณ 31 ธ.ค.61)โดยยังเหลือขาดทุน 296 ล้านบาท เพื่อให้บริษัทสามารถจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้ หากปีนี้ทำกำไรได้มากกว่า 300 ล้านบาท และจะไม่กระทบกับส่วนผู้ถือหุ้น
"ถ้าไม่มีขาดทุนสะสม และถ้าเราทำกำไรเกิน 300 ล้านบาท เราสามารถจ่ายเงินปันผลได้ ทำให้ผู้ถือหุ้นได้รับเงินปันผล"
กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ THAI กล่าวว่า จากการพิจารณาผลประกอบการของบริษัทที่ผ่านมา ไม่ราบรื่นเป็นปัญหาวงจร ที่มีเครื่องบินอายุมาก เกิดปัญหาการใช้งานทำให้เกิดค่าใช่จ่ายซ่อมแซม และเกิดการใช้เครื่องบินไม่เหมาะสม ส่งผลให้การให้บริการไม่มีประสิทธิภาพและไม่ตรงตามความต้องการของผู้โดยสาร
ดังนั้นในช่วงปี 62-63 บริษัทจะจัดหาเครื่องบินใหม่ 38 ลำ แต่ระหว่างที่รอเครื่องบินใหม่ จะพิจารณาการเช่าเครื่องบินมาใช้ดำเนินการก่อน ในระยะสั้น โดยขณะนี้แผนการจัดหาเครื่องบินอยู่ขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)อนุมัติต่อไป
ขณะเดียวกันบริษัทเพิ่มรายได้ที่เกี่ยวข้องการบิน ได้แก่ ครัวการบินไทย การขายสินค้า E-Commerce โดยตั้งเป้าเพิ่มรายได้ 3-4 พันล้านบาท ขณะเดียวกันตั้งเป้าลดค่าใช้จ่ายในปีนี้ 3-4 พันล้านบาท
อีกทั้งจะปรับปรุงการบริการ ในฐานะสายการบินแห่งชาติ ที่มีการบริการเป็นเลิศ รวมทั้งให้บริการช่องทางดิจิทัลแพลตฟอร์ม ซึ่งจะช่วยให้ผลประกอบการดีขึ้น
นอกจากนี้ ผลประกอบการการบินไทยได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายน้ำมันและความผันผวนเงินตราต่างประเทศ ที่ใช้อยู่ 50 สกุลเงิน ในเรื่องนี้จะมีการบริหารความเสี่ยงทั้งน้ำมันและอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เพื่อลดผลกระทบต่อผลประกอบการ บริหารความเสี่ยงได้ผลประกอบการจะมีความชัดเจน
ส่วนปัญหาการด้อยค่าสินทรัพย์และเครื่องบินที่ผ่านมาเป็นตัวฉุดผลประกอบการ โดยการปรับมาตรฐานทางบัญชี ทั้งมูลค่าซากเครื่องบิน เครื่องบินที่ปลดระวาง หลังจากนี้จะไม่กระทบรุนแรงเหมือนแต่ก่อน ก็จะทำให้ผลประกอบการดีขึ้น