นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป (ZEN) กล่าวว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้ปี 2562 เติบโต 15 – 20% โดยวางแผนขยายสาขาร้านอาหารและเพิ่มรายได้จากธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เช่น ธุรกิจเดลิเวอรี่ ธุรกิจอาหารค้าปลีก ฯลฯ พร้อมทั้งเพิ่มขีดความสามารถการทำกำไรที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้วางเป้าหมายระยะยาวในช่วง 3 ปีนับจากนี้ จะเพิ่มความสามารถทำกำไรให้อยู่ในระดับเดียวกับอุตสาหกรรมอาหารโดยรวม
สำหรับปี 2562 บริษัทฯ ได้เตรียมงบลงทุนรวมกว่า 230 ล้านบาท สำหรับใช้ในการขยายสาขาร้านอาหารที่บริษัทเป็นเจ้าของทั้งสาขารูปแบบเดิม และ สาขารูปแบบใหม่ (สาขาที่มีขนาดเล็กลงและใช้เงินลงทุนลดลง) โดยคาดว่าจะเปิดสาขาใหม่ที่บริษัทเป็นเจ้าของเองในปีนี้เพิ่มขึ้นประมาณ 36 แห่ง รวมถึงใช้เพื่อปรับปรุงและพัฒนาสาขาเดิม และเพื่อพัฒนาระบบไอที ซึ่งจะส่งผลช่วยผลักดันรายได้และผลกำไรของกลุ่มบริษัทให้เติบโตตามเป้าหมาย
"จากแผนงานของเรามั่นใจว่าจะสร้างการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่องจากปี 2561 ที่มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากมีธุรกิจร้านอาหารที่หลากหลาย ทั้งอาหารไทย และญี่ปุ่น มากถึง 12 แบรนด์ สามารถตอบสนองกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อทุกกลุ่มเป้าหมาย และกลุ่มบริษัทได้ขยายการให้บริการ Delivery เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางให้กับผู้บริโภค" นายบุญยง กล่าว
นางยุพาพรรณ เอกสิทธิกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจการเงินและบัญชี ZEN เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานปี 2561 มีอัตราการเติบโตเป็นที่น่าพอใจทั้งในแง่กำไรสุทธิและรายได้ โดยมีกำไรสุทธิ 140.2 ล้านบาท เติบโต 71.4% จากปีก่อนอยู่ที่ 81.8 ล้านบาท และมีรายได้รวม 2,964.7 ล้านบาท เติบโต 17.9% จากปีก่อนอยู่ที่ 2,515.2 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นรายได้สูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ โดยมีปัจจัยการเติบโตมาจากหลายส่วน ได้แก่ 1.ยอดขายร้านอาหารสาขาเดิมที่มีอัตราเติบโตเฉลี่ย 4.7% จากปีก่อน เนื่องจากมีการพัฒนาเมนูอาหารใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการปรับกลยุทธ์การบริหารงานและปรับปรุงการให้บริการที่ดียิ่งขึ้น 2.รุกขยายสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของและสาขาแฟรนไชส์ 3.รุกธุรกิจบริการจัดส่งอาหาร (Delivery) และธุรกิจอาหารค้าปลีกที่มีทั้งผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมปรุงและอาหารพร้อมทานเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุม 4.การบริหารค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A Expense) ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตลอดจนการปรับระบบโลจิสติกส์โดยเลือกใช้บริการจากผู้ให้บริการมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญ
"หลังจากเราใช้เวลากับการลงทุนเตรียมความพร้อมระบบบริหารจัดการภายในองค์กรมาระยะหนึ่ง ก็เริ่มเห็นผลลัพธ์ในปีที่ผ่านมา โดยอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 4.7% ต่อยอดขาย อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าบริษัทฯ ยังสามารถเพิ่มอัตรากำไรที่ดีขึ้นอีกในอนาคต" นางยุพาพรรณ กล่าว