นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีเอ็มโอ (CMO) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ในปี 2562 ที่ระดับ 1,450 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่มาจากธุรกิจอีเว้นท์ประมาณ 80% ครอบคลุมทั้งในกลุ่มรับจัดงาน และกลุ่มซัพพลายอุปกรณ์ระบบภาพแสงเสียง ในส่วนของกลุ่มงานไลฟ์สไตล์บันเทิงประมาณ 15% และตลาดต่างประเทศอีก 5% ซึ่งแนวโน้มผลงานในช่วงไตรมาสแรกของปี 2562 คาดว่าจะเติบโตดี โดยปัจจุบันบริษัทมีงานในมือที่รอรับรู้เป็นรายได้ (Backlog) ภายในสิ้นปีนี้ มูลค่าประมาณ 600 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทมีเป้าหมายที่จะรักษาความเป็นผู้นำด้านธุรกิจอีเว้นท์ เอเจนซี่ อันดับ 1 ของประเทศ ทั้งในแง่ของการเป็นผู้บริหารการจัดงาน และในกลุ่มของงานด้านบริการระบบภาพ แสงและเสียง แบบครบวงจร ด้วยการรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ และพัฒนาธุรกิจใหม่ ๆ ที่เข้ากับเทรนด์และตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่มากขึ้น โดยจะขยายงานทั้งในและต่างประเทศ
สำหรับแผนในประเทศ บริษัทเปิดธุรกิจใหม่ "CM Digital" ให้บริการ Digital Solutions และ Data Management นำเทคโนโลยีดิจิทัล มาช่วยสร้างมิติใหม่ในการจัดงานอีเว้นท์ทุกประเภท ครอบคลุมงานจัดประชุม งานนิทรรศการ ตลอดจนถึงงานพิพิธภัณฑ์และศูนย์การเรียนรู้ นอกจากนี้ยังให้บริการระบบ Abstract Management System ซึ่งเป็นระบบบริหารจัดการบทคัดย่อวิชาการ ซึ่งระบบนี้ ถูกพัฒนาให้สามารถรองรับการจัดงานประชุมวิชาการระดับนานาชาติ (International Conference) โดยเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ต้องการนำเสนอผลงานวิจัย (Submitter) ได้นำเสนอบทคัดย่อวิชาการผ่านระบบ Abstract submission และผู้ประเมิน (Reviewer) สามารถให้คะแนนผ่านระบบ Abstract review ได้อีกด้วย
ส่วนของแผนงานตลาดต่างประเทศนั้น บริษัทยังคงเดินหน้าธุรกิจต่อเนื่อง แต่จะเลือกประเทศมากขึ้น โดยพิจารณาจากเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ เป็นหลัก จะเป็นในลักษณะของงานกิจกรรมการตลาด (Event Marketing) มากกว่า โดยประเดิมต้นปี 2562 ได้ร่วมสร้างสรรค์งาน "The 1st Yangon International Motor Show 2019" งานแสดงสินค้าด้านยานยนต์ครั้งแรกของประเทศเมียนมา ซึ่งงานนี้ บริษัท พีเอ็ม เซ็นเตอร์ จำกัด บริษัทในเครือซีเอ็มโอ ได้รับความไว้วางใจจากบมจ.กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นเนล (GPI) ให้เป็น official contractor ด้านระบบภาพ ระบบแสง และระบบเสียง นอกจากนี้ บริษัทยังมีงานในต่างประเทศ ที่จัดให้กับแบรนด์ต่าง ๆ ของไทยที่ขยายงานไปต่างประเทศอีกด้วย อาทิเช่น งานเปิดตัวธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ในประเทศลาว และประเทศกัมพูชา เป็นต้น
สำหรับผลการดำเนินงานปี 2561 บริษัทมีรายได้รวม 1,449.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.38% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 52.93 ล้านบาท จากกำไรสุทธิ 36.19 ล้านบาทเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งจะเห็นได้ว่าผลประกอบการของบริษัทมีทิศทางเติบโตที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากการได้รับงานโครงการใหญ่ ๆ หลายโครงการ อาทิ งานเปิดโครงการไอคอนสยาม บวกกับบริษัทเน้นการบริหารจัดการต้นทุน บริหารความเสี่ยง และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในด้านต่าง ๆ ซึ่งช่วยหนุนกำไรสุทธิให้เติบโต