LPH วางเป้ารายได้ปี 62 เติบโตหลังรุกงานตรวจสุขภาพนอกสถานที่-เจาะกลุ่มลูกค้าตปท. ,เล็งส่ง AMARC เข้าตลาดหุ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 5, 2019 15:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอังกูร ฉันทนาวานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โรงพยาบาลลาดพร้าว (LPH) เปิดเผยว่า แผนธุรกิจปี 2562 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต จากระดับ 1.59 พันล้านบาทในปีก่อน เนื่องจากฐานผู้ป่วยประเภทชำระเงินเองมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น กลุ่มคนไข้ทั่วไปตั้งเป้าเติบโตไม่น้อยกว่า 50% โดยเพิ่มจากกลุ่มธุรกิจตรวจสุขภาพนอกสถานที่ ซึ่งคาดว่าปีนี้จะมีรายได้จากการตรวจสุขภาพประมาณ 160-200 ล้านบาท และกลุ่มคนไข้ต่างประเทศทั้งกลุ่มอาเซียนและอาหรับรวม 80 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนมุ่งเน้นขยายบริการด้านการรักษาใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มทีมแพทย์เฉพาะทาง และการเปิดศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ (Excellent Center) ครบ 10 ศูนย์ มีการขยายพื้นที่การให้บริการต่าง ๆ ในปี 2562 คาดว่ารายได้ของ LPH แบ่งเป็น ผู้ป่วยประเภทเงินสด 60% และรายได้จากผู้ป่วยประกันสังคม 40% ที่ขณะนี้โควตาเต็มแล้วอยู่ที่ 1.61 แสนราย

ทั้งนี้ โรงพยาบาลขยายศักยภาพสู่ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์จากเดิม 5 ศูนย์ เป็น 10 ศูนย์ ศูนย์ที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ศูนย์สุขภาพสตรี, ศูนย์สุขภาพเด็ก, ศูนย์ตรวจสุขภาพ, ศูนย์ทันตกรรม และศูนย์หัวใจ เป็นการลงทุนขยายพื้นที่บริการ ซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัย คาดใช้เงินลงทุนกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งในปีนี้จำนวนผู้ป่วยทั่วไปที่เป็นคนไทยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ส่วนความคืบหน้าการก่อสร้างโรงพยาบาลลาดพร้าว ลำลูกกาคลอง 6 วางแผนก่อสร้างต้นปี 2563 แบ่งออกเป็น 2 ช่วงคือช่วงแรกก่อสร้างจำนวน 100 เตียง งบลงทุนไม่เกิน 400 ล้านบาท เน้นเป็นโรงพยาบาลแม่และเด็กซึ่งอยู่ในชุมชนที่มีการขยายตัวสูงและเป็นศูนย์อุบัติเหตุและฉุกเฉิน คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ต้นปี 2565 ส่วนช่วงที่ 2 จะขยายเพิ่มขึ้นอีก 80 เตียงหลังจากเปิดดำเนินการแล้ว 5 ปี

"ปี 62 เรามองไปที่การขยายธุรกิจโรงพยาบาลในลักษณะการให้บริการตรวจสุขภาพ นอกสถานที่ ซึ่งตามกฎหมายโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ ต้องตรวจสุขภาพพนักงานทุกปี ต้องมีการตรวจด้านอาชีวอนามัย มีห้องพยาบาล มีแพทย์ ซึ่งในปีนี้เรามีความพร้อมที่จะรับงานด้านนี้ โดยตั้งเป้าตรวจสุขภาพนอกสถานที่ในปี 62 ไว้ที่ประมาณ 1.5-2 แสนคน โดยในกรุงเทพฯจะมุ่งเน้น กลุ่มลูกค้าสถาบัน บริษัทเอกชน และห้างร้านขนาดใหญ่ โดยบริษัทพร้อมตั้งทีมบริการร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจที่มีประสบการณ์ หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนรายได้จะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 160-200 ล้านบาท"นายอังกูร กล่าว

นายอังกูร กล่าวว่า บริษัทมีแผนปรับโครงสร้างบริษัทย่อย คือ บริษัท ศูนย์ห้องปฏิบัติการและวิจัยทางการแพทย์และการเกษตรแห่งเอเชีย จำกัด (AMARC) ในปี 62 คาดว่าจะมีผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องกว่า 15-20% และเมื่อกำไรสุทธิเข้าเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯก็จะนำหุ้นบริษัทเข้าจดทะเบียนเพื่อขยายธุรกิจตามแผนลงทุนต่อไป โดยคาดว่าจะแต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงินประมาณต้นปี 2563

สำหรับผลประกอบการในปี 2561 มีรายได้รวม 1.59 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากระดับ 1.52 พันล้านบาทในปีก่อน จากการเติบโต 5.5% ของรายได้จากกิจการสถานพยาบาล และการเติบโต 19.4% จากธุรกิจบริการ ตามการใช้จ่ายเพื่อสุขภาพที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4 ซึ่งเป็นไฮซีซันที่มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษามาก ประกอบกับศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ทั้ง 5 ศูนย์ สร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการขยายฐานของกลุ่มลูกค้าที่มาใช้บริการของ AMARC

อย่างไรก็ตาม การเตรียมการรองรับผู้มาใช้บริการที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งอาคารสร้างใหม่ เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมถึงบุคลากรที่มีคุณภาพรองรับการเติบโตดังกล่าว ส่งผลให้ต้นทุนและค่าใช้จ่ายรวมของกลุ่มกิจการเพิ่มขึ้น ขณะที่บริษัทรับรู้ผลขาดทุนซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการลดลงของราคาหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในรอบปี ส่งผลให้รับรู้ขาดทุนจากเงินลงทุนสุทธิของกองทุนส่วนบุคคล จำนวน 9.55 ล้านบาท ขณะที่ปี 2560 มีกำไร 26.67 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรสุทธิของบริษัทในปี 2561 ลดลง 19% มาที่ 156.95 ล้านบาท โดยบริษัทคาดว่าจะยกเลิกกองทุนและนำเงินมาลงทุนตามแผนงานเมื่อผลประกอบการกองทุนดีขึ้นในปี 2562


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ