นายบัลลังก์ ไวยานนท์ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป ดูแลด้านนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) เปิดเผยว่า บริษัทคาดยอดขายในปี 62 จะเติบโตประมาณ 5% จากปีก่อน ตามการบริโภคอาหารทะเลทั่วโลกมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากการใช้ชีวิตประจำวันที่มีความนิยมบริโภคอาหารที่มีไขมันต่ำ และมีโอเมก้า ส่งผลให้ปริมาณยอดขายอาหารทะเลทั่วโลกเติบโตเฉลี่ยปีละประมาณ 3-4%
นอกจากนี้บริษัทมีแผนขยายตลาดใหม่ในประเทศจีนให้เพิ่มมากขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้จัดตั้งบริษัทย่อย และจำหน่ายสินค้า ซึ่งพบว่าตลาดมีความต้องการสินค้าอย่างต่อเนื่อง ส่วนของปัจจัยอัตราค่าเงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ และเงินยูโร ยังคงมีผลกระทบต่อยอดขายของบริษัท และคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะเฉลี่ยอยู่ที่ 15% โดยบริษัทจะควบคุมต้นทุนด้านการบริหารให้ลดลงประมาณ 10%
ทั้งนี้ บริษัทได้เตรียมงบลงทุนไว้จำนวน 4,800 ล้านบาท เพื่อใช้ลงทุนในธุรกิจเดิม และซ่อมบำรุงโรงงาน รวมถึงลงทุนในธุรกิจใหม่ โดยเงินลงทุนจะมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน นอกจากนี้บริษัทยังคงมองหาโอกาสการลงทุนที่จะช่วยส่งผลดีต่อการเติบโตของบริษัท แต่อย่างไรก็ตามจะต้องดูมูลค่าสินทรัพย์ และแหล่งเงินการลงทุนว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ด้วย
นายบัลลังก์ กล่าวอีกว่า บริษัทอยู่ระหว่างการปรับมาตรฐานทางบัญชี เพื่อให้สะท้อนถึงผลประกอบการที่แท้จริง ที่จะทำให้ไม่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของค่าเงินด้วย
ส่วนการจะเข้าถือหุ้นเพิ่มในธุรกิจร้าน Red Lobster ประเทศสหรัฐ ด้วยการใช้สิทธิแปลงสภาพหุ้นบุริมสิทธิ์เป็นหุ้นสามัญได้จำนวน 24% จากปัจจุบันถือหุ้นใน Red Lobster สัดส่วน 25% นั้น ขณะนี้บริษัทยังไม่ได้ตัดสินใจ เนื่องจากอยู่ระหว่างการพิจารณาแนวโน้มผลประกอบการประกอบด้วย