(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ซึมลงตามต่างประเทศ แต่ราคาน้ำมันขึ้น-บจ.จ่ายปันผลช่วยประคองตลาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 5, 2019 09:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายคณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยเช้านี้น่าจะมีลักษณะซึมตัวลง ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาคที่เช้านี้อ่อนตัวลงหลังดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงเมื่อคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติแม้จะยังคงขายสุทธิต่อเนื่องแต่ก็เริ่มชะลอตัวลงบ้าง อย่างไรก็ตามนักลงทุนน่าจะยังเข้ามาเลือกซื้อหุ้นเป็นรายตัวที่มีปัจจัยหนุน อย่างกลุ่มพลังงานที่ราคาน้ำมันปรับขึ้นและเริ่มยืนทรงตัว รวมถึงหุ้นที่มีการจ่ายปันผลต่อเนื่อง ซึ่งการจ่ายปันผลของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนมี.ค.-พ.ค.

ด้านตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของไทยที่มีการประกาศในช่วงที่ผ่านมาก็ออกมาคละกัน โดยเครื่องชี้การบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชนขยายตัวดีขึ้น ส่วนการส่งออก และดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม(MPI) แผ่วตัวลง ขณะที่นักลงทุนยังรอติดตามสถานการณ์การเมือง หลังในวันที่ 7 มี.ค. ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยกรณีคำร้องยุบพรรคไทยรักษาชาติ

ส่วนปัจจัยต่างประเทศ ก็เริ่มเห็นแรงขายระยะสั้นในตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้ และต้องติดตามความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ทำให้ปัจจัยส่วนใหญ่ที่เข้ามาสู่ตลาดช่วงนี้ยังไม่มีปัจจัยบวกส่งผลให้นักลงทุนน่าจะยังมีลักษณะเข้าซื้อรายตัวเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาตามแนวรับ

พร้อมมองแนวรับที่ 1,629 และ 1,622 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,643 และ 1,650 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (4 มี.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,819.65 จุด ร่วงลง 206.67 จุด (-0.79%) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,792.81 จุด ลดลง 10.88 จุด (-0.39%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,577.57 จุด ลดลง 17.79 จุด (-0.23%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 109.24 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 7.70 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 136.43 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 26.63 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 7.31 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 10.07 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 11.80 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (4 มี.ค.62) 1,635.30 จุด ลดลง 6.14 จุด (-0.37%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,656.86 ล้านบาท เมื่อวันที่ 4 มี.ค.62
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (4 มี.ค.62) ปิดที่ 56.59 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 79 เซนต์ หรือ 1.4%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (4 มี.ค.62) ที่ 4.18 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.87/90 แนวโน้มอ่อนค่าจากเงินไหลออก กังวลการเมืองในประเทศ มองกรอบวันนี้ 31.80-31.95
  • สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หารือ "แบงก์ชาติ"ถกปัญหาค่าเงิน-ส่งออก ย้ำอยากเห็นค่าเงินเคลื่อนไหวสอดคล้องภูมิภาค พร้อมร่วมส่งเสริมการใช้เงินสกุลท้องถิ่น ลดพึ่งพาดอลลาร์ แก้ปัญหาค่าเงินบาทแข็ง หวั่นส่งออก ปีนี้หลุดเป้า 5% รอประเมินสถานการณ์ใหม่อีกรอบ ด้าน"แบงก์ชาติ" เผยเข้าแทรกแซง "เงินบาท" ในช่วงที่แข็งค่าเร็วและไม่สอดคล้องกับพื้นฐานเศรษฐกิจมาโดยตลอดเพื่อให้เวลาเอกชนปรับตัว ระบุตั้งแต่ต้นปีแข็งค่าขึ้นแล้ว 2.3% แนะป้องกันความเสี่ยง และใช้เงินสกุลคู่ค้าในการค้าขาย
  • นายกฯร่ายมนต์ดึงความเชื่อมั่นนักลงทุนในงานสัมมนาใหญ่บีโอไอ โชว์ผลงานที่ผ่านมา พิสูจน์เศรษฐกิจไทยแข็งปึ๊ก ด้วยยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ไม่มีรัฐบาลไหนกล้าเลิก "บีโอไอ" งัดสารพัดมาตรการโด๊ปปีแห่งการลงทุน ตั้งเป้ายื่นขอส่งเสริม 7.5 แสนล้านบาทขั้นต่ำมาแน่ ด้านคมนาคมเข็นแผนลงทุน 1.2 ล้านล้านบาท เข้า ครม.ภายในเดือนนี้ เร่งปิดจ๊อบก่อนเลือกตั้ง
  • "ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี"เผยกำไร บจ.ไตรมาส 4 ปี 61 ทรุดกว่า 31.9% ต่ำสุดรอบ 10 ปี เหตุกลุ่มพลังงานปิโตรฯ ขาดทุนสต็อก รวมทั้งผลกระทบสงครามการค้า ตั้งสำรองเกษียณอายุ ฉุดกำไรวูบ
  • ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนประจำเดือนมีนาคม 2562 ว่า การสำรวจ

เดือนนี้พบว่าดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่สองติดต่อกันมาอยู่ในเกณฑ์ร้อนแรง โดยความเชื่อมั่น

เพิ่มขึ้น 11.92% มาอยู่ที่ระดับ 130.68 ซึ่งผลสำรวจพบว่านักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์การเมืองจากการเลือกตั้งที่ชัดเจน หลังมี

การประกาศการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการในวันที่ 24 มีนาคม ชี้ว่านักลงทุนคาดหวังในเชิงบวกจากการเข้าสู่การเลือกตั้ง รองลงมานักลง

ทุนเชื่อมั่นผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งภาวะเศรษฐกิจในประเทศยังคงมีทิศทางเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

*หุ้นเด่นวันนี้

  • BCH (ทรีนีตี้) แนะ"ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 21.15 บาท ขณะที่ BCH ตั้งเป้าปี 62 การเติบโตของจำนวนผู้ประกันตนที่ 10% YoY มาจากการเติบโตที่ 70,000-75,000 ราย จากโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รามคำแหง และการเปิดศูนย์บริการคนไข้ต่างชาติที่จะมาสนับสนุนการเติบโตรายได้กลุ่มเงินสด ทำให้ทรีนีตี้ คาดกำไรของ BCH อยู่ที่ 1.1 พันล้านบาท โดยจะมีปัจจัยสนับสนุนดังนี้ 1)การเปิดบริการศูนย์ IVF ครบวงจรที่ WMC ซึ่งมี Demand จากชาวต่างชาติอยู่สูง และการรับรู้กำไรเต็มปีเป็นปีแรก 2) การเพิ่ม Quota ผู้ประตนเป็น 1.08 ล้านราย และคาดว่าจะมีผู้ประกันตนที่ 8.8 แสนราย เติบโต 10% YoY 3)การเปิดศูนย์การแพทย์เพิ่มที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล รัตนาธิเบศร์ 3 ศูนย์ ได้แก่ ศูนย์ไตเทียม ศูนย์ทางเดินอาหาร และศูนย์ Cath-Lab ที่จะมาสนับสนุนการเติบโตของรายได้ในส่วนของ IPD
  • TOP (กรุงศรี) แนะ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 90 บาท หลังราคาร่วงแรงสะท้อนปัจจัยลบไปแล้ว ระยะสั้นมีข่าวบวกล่าสุดค่าการกลั่น ณ โรงกลั่นสิงคโปร์เร่งตัวขึ้นสู่ระดับ 4 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เทียบกับช่วงต้นปีอยู่ที่ระดับ 1.5 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
  • WHA (เคทีบีฯ) แนะ"ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 4.80 บาท โดยมีมุมมองเป็นบวกจากข่าวเตรียมเปิดนิคมฯแห่งใหม่ที่จ.ชลบุรี พื้นที่ 2 พันไร่ในเดือนเม.ย.นี้ พร้อมมียอดจองที่ดินที่รองรับ 285 ไร่ ซึ่งก่อให้เกิดความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มยอดขายที่ดินในปี 62 ที่จะอยู่ 1.6 พันไร่ (มากกว่าเป้าเดิมที่ 1.4 พันไร่) นอกจากนี้ธุรกิจโลจิสติกส์มีแนวโน้มที่ดีขึ้น จากการร่วมมือกับ JD.com สะท้อนรายได้ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นในระยะยาว ในขณะที่คาดว่าการร่วมทุนกับ Alibaba จะเป็นการขายที่ดิน/อาคาร มากกว่าการปล่อยเช่า พื้นที่ Phase I 1.3 แสนตร.ม. คาดรับรู้รายได้ใน 3Q62 ประมาณ 3.0 พันล้านบาท ทั้งนี้คงประมาณการกำไรสุทธิปี 62 ที่ 3.8 พันล้านบาท (+33%)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ