นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ปิดที่ 1,653.48 จุด เพิ่มขึ้น 5.7% จากสิ้นปี 2561 ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหลักทรัพย์อื่นในเอเชีย แต่นับว่ายังทรงตัวเมื่อเทียบกับสิ้นเดือนก่อน โดยในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ผู้ลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิในตลาดหลักทรัพย์ไทยตามบรรยากาศการลงทุนที่ดีต่อเนื่องจากเดือนก่อน จากกรณีการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนมีสัญญาณที่ดีขึ้น ขณะที่ผู้ลงทุนรอจังหวะการลงทุนในช่วงกลางเดือนเป็นต้นมาเมื่อเริ่มเข้าสู่บรรยากาศการเลือกตั้งมากขึ้น
ด้านมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันทั้ง SET และตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 อยู่ที่ 46,771 ล้านบาท ลดลง 3.7% จากเดือนก่อน แต่ยังคงสูงที่สุดในภูมิภาค ขณะที่มูลค่าการระดมทุนผ่านการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ในตลาดหลักทรัพย์ไทยยังคงสูงที่สุดในอาเซียนในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2562
"บรรยากาศการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทยยังคงเป็นลักษณะทรงตัว เนื่องจากนักลงทุนรอความชัดเจนกรณีการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน แม้สถานการณ์เริ่มคลี่คลายไปบ้าง ส่วนปัจจัยในประเทศเริ่มเข้าสู่บรรยากาศการเลือกตั้งมากขึ้น แต่ยังคงต้องติดตามการจัดตั้งรัฐบาลว่าจะมีปัญหาทางการเมืองตามมาหรือไม่"นายศรพล กล่าว
นายศรพล กล่าวว่า ในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 พบว่าผู้ลงทุนต่างประเทศมีสถานะขายสุทธิในตลาดหลักทรัพย์ไทย 3,500 ล้านบาท แต่ถ้าพิจารณาข้อมูลตั้งแต่ต้นปียังคงสถานะซื้อสุทธิ 3,311 ล้านบาท ทั้งนี้ เชื่อว่าในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ จะมีปัจจัยบวกจากการประกาศผลพิจารณาของ MSCI ที่คาดจะเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทยอีก 0.50% จากปัจจุบันถือครองในสัดส่วน 2.4% หากมีผลบังคับใช้เกณฑ์ดังกล่าวตามคาดจะส่งผลให้กระแสเงินลงทุนของผู้ลงทุนต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในเดือนเมษายนนี้ ซึ่งที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยได้ถูกเพิ่มน้ำหนักลงทุนจากการที่ FTSE Global Equity Index Series ทบทวนปรับเพิ่มหุ้นขนาดใหญ่และขนาดกลางของไทย ทำให้หุ้นไทยได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนต่างประเทศ และผู้ลงทุนสถาบันมากขึ้น
"ในแง่ของฟันด์โฟลว์ระยะสั้น ๆ ต้องมาจับตา MSCI จะเพิ่มน้ำหนักลงทุนตลาดหุ้นไทยอีก 0.50% หรือไม่ ซึ่งปลายเดือนมีนาคมนี้คงรู้ผลชัดเจน ถ้าเป็นไปตามคาด MSCI จะมีสัดส่วนเพิ่มมาใกล้ ๆ 3% และถ้าการเลือกตั้งไม่มีปัญหา กระแสฟันด์โฟลว์น่าจะเข้ามาช่วยหนุนดัชนีฯในเดือนเมษายนได้เช่นกัน"นายศรพล กล่าว
สำหรับภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2562 กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มทรัพยากร และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ให้ผลตอบแทนมากกว่า SET Index ขณะที่ผู้ลงทุนต่างประเทศขายสุทธิในตลาดหลักทรัพย์ไทย 3,500 ล้านบาท ส่วนผู้ลงทุนสถาบันในประเทศยังคงซื้อสุทธิต่อเนื่องตั้งแต่ปีก่อน
Forward และ Historical P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2562 อยู่ที่ระดับ 15 เท่า และ 17 เท่าตามลำดับ สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 13.76 เท่า และ 15.56 เท่าตามลำดับ อัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2562 อยู่ที่ระดับ 3.11% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียที่อยู่ที่ 2.80%
ด้านมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของ SET และ mai ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2562 อยู่ที่ 17.2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.9% จากสิ้นปี 2561 สอดคล้องกับทิศทางของดัชนี ขณะที่ในเดือนช่วง 2 เดือนแรกของปี 2562 มูลค่าการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทยอยู่ที่ระดับ 5,680 ล้านบาทซึ่งสูงที่สุดในอาเซียน
ส่วนภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 308,876 สัญญา ซึ่งลดลง 10.9% จากเดือนก่อน โดยส่วนใหญ่ลดลงจาก SET50 Index Futures และ SET50 Index Options