นายเฮ็นริคคัส แวน เวสเทนดร็อป ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงิน บมจ.ห้องเย็นเอเชี่ยน ซีฟู้ด (ASIAN) กล่าวว่า ในปี 62 บริษัทฯ วางเป้าหมายการเติบโตของรายได้ที่ 11% หรือมีรายได้รวมประมาณ 10,700 ล้านบาท และคาดการณ์อัตรากำไรขั้นต้นที่ระดับ 10-12% จากการเติบโตของยอดขายในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงทั้งจากธุรกิจ OEM และแบรนด์มองชูที่จะรุกตลาดไทย-จีนเต็มที่ และธุรกิจอาหารสัตว์น้ำ ในขณะที่ผลิตภัณฑ์อาหารแช่เยือกแข็ง เน้นขยายตลาดผลิตภัณฑ์กลุ่มเพิ่มมูลค่าและเร่งผลักดันแบรนด์ใหม่เจาะตลาดภายในประเทศ
โดยได้ตั้งงบลงทุนไว้กว่า 545 ล้านบาท เพื่อขยายกิจการในทุกธุรกิจ นอกจากนี้ บริษัทฯยังวางแผนปรับปรุงสายการผลิต เพิ่มกำลังการผลิต และเร่งโครงการก่อสร้างคลังสินค้าอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิตและการทำกำไร และยังเพิ่มโอกาสให้รายได้เติบโตขึ้นอีกในอนาคต
ส่วนกรณีค่าเงินบาทที่แข็งค่าในช่วงต้นปี ผู้บริหาร ASIAN ยอมรับว่า มีผลกระทบกับผลการดำเนินงานไม่มากนัก แม้ว่าบริษัทจะมีโครงสร้างรายได้เป็นสัดส่วนส่งออกกว่า 80% แต่บริษัทใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน "เฮดจิ้ง" เพื่อระมัดระวังอัตราแลกเปลี่ยนที่มีความผันผวนมากในช่วงนี้
สำหรับแผนขยายกิจการอาหารสัตว์เลี้ยงในจีน ปัจจุบันบริษัทจัดตั้งบริษัทลูก Thaiya Corporation (Shanghai) เพื่อขยายตลาดผลิตภัณฑ์หลากหลายช่องทาง อาทิ ร้านค้าขายอาหารสัตว์ และร้านค้าออนไลน์ ที่คาดจะเติบโตได้อย่างโดดเด่น แต่ในส่วนโรงงานผลิตบริษัทอยู่ระหว่างเจรจา 2-3 ราย เพื่อศึกษาโอกาสเข้าซื้อกิจการ หรือเข้าร่วมทุน เพราะจะสามารถขยายกิจการได้อย่างรวดเร็วตามความต้องการตลาดฯ เบื้องต้นวางงบลงทุนไว้ 100 ล้านบาท คาดจะได้ข้อสรุปดีลดังกล่าวภายในปีนี้
"เป้าหมายหลักของห้องเย็นเอเชี่ยนฯ ปี 2562 คือการปรับปรุงประสิทธิภาพและการเข้าใกล้ผู้บริโภคมากขึ้น การปรับปรุงประสิทธิภาพ บริษัทฯ ทำมาตลอดในปี 2561 ตั้งแต่การปรับปรุงให้ธุรกิจในเครือมีการใช้ห้องเย็นร่วมกัน เน้นประสิทธิภาพร่วมกันสูงสุด ปรับปรุงโครงสร้างหน่วยงานขาย ปรับปรุงไลน์ผลิต และในปี 2562 ยังมีโครงการต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างคลังสินค้าอัตโนมัติ และการลงทุนในเครื่องจักรเพื่อทดแทนแรงงานคนในการผลิตหลายส่วน ในส่วนการเข้าใกล้ผู้บริโภคมากขึ้น หลังจากที่ในปี 2561 บริษัทฯ ลงทุนในกิจการร่วมค้า สร้างช่องทางการจัดจำหน่ายในตลาดสำคัญและได้ชิมลางการทำตลาดแบรนด์ผ่านแบรนด์ "MARIA" ในปี 2562 นี้ บริษัทฯ ได้เปิดตัวแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงเกรดพรีเมี่ยมแบรนด์มองชู เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี ทั้งในตลาดในประเทศและตลาดในประเทศจีน และในครึ่งปีหลัง บริษัทฯ วางแผนจะผลักดันแบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารแช่เยือกแข็งพร้อมทานเข้าสู่ตลาดในประเทศไทย จากเดิมที่เน้นส่งออกมาตลอด" นายเฮ็นริคคัส กล่าว
ขณะที่กำไรสุทธิปี 2561 อยู่ที่ 362 ล้านบาท ลดลง 13.3% จากปี 2560 ที่มีกำไรสุทธิ 418 ล้านบาท เนื่องจากปีก่อนหน้าบริษัทฯ ได้รับผลประโยชน์จากการตั้งสินทรัพย์ทางภาษีเงินได้รอตัดบัญชีที่สูง อย่างไรก็ตาม ศักยภาพการทำกำไรของบริษัทฯ ยังแข็งแกร่ง โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 10.4% อัตรากำไรก่อนภาษีอยู่ที่ 3.7% ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกันกับปีก่อนหน้า
ทั้งนี้ กระแสเงินสดของบริษัทฯ แข็งแกร่งขึ้น เนื่องจากเงินทุนหมุนเวียนลดลงมาอยู่ที่ 2,905 ล้านบาท เทียบกับ 3,295 ล้านบาทในปีก่อนหน้า ส่วนอัตราส่วนทางการเงินจากงบแสดงฐานะทางการเงินแสดงอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 1.4 เท่า เทียบกับปีก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 1.7 เท่า ซึ่งดีกว่าระดับเป้าหมายที่ต้องการให้อยู่ที่ระดับ 1.5-1.8 เท่า ส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนอยู่ที่ 1.0 เท่า ลดลงจากปี 2560 ที่อยู่ในระดับ 1.4 เท่า