นายชนะชัย จุลจิราภรณ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.เออีซี (AEC) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (Lead Underwriter) ของ บมจ.โกลบอล เซอร์วิส เซ็นเตอร์ (GSC) เปิดเผยว่า หลังจากเปิดให้ผู้ถือหุ้นของ บมจ.เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป (ACAP) ที่มีสิทธิจองซื้อ (Pre-emptive) เข้ามาจองซื้อระหว่างวันที่ 27 ก.พ.-1 มี.ค.62 และ เสนอขายให้นักลงทุนทั่วไประหว่างวันที่ 4-6 มี.ค.62 ราคาเสนอขาย 1.70 บาท/หุ้น พบว่ามีผู้สนใจจองซื้อหุ้น GSC เกินจำนวนที่เสนอขาย
ทั้งนี้ คาดว่าผู้สนใจจองซื้อหุ้น GSC มั่นใจในปัจจัยพื้นฐานธุรกิจและแผนการลงทุนที่มีความชัดเจนของบริษัท สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในธุรกิจของGSC ซึ่งเป็นผู้นำด้านการดำเนินธุรกิจศูนย์บริการข้อมูล (Call Center Service) และธุรกิจติดตามทวงถามหนี้ (Collection Service) ตอกย้ำให้เห็นความมั่นใจในปัจจัยพื้นฐานที่มีศักยภาพสูงในการเติบโต มีความโดดเด่น มีอนาคตสดใส จึงมั่นใจว่าหุ้น GSC จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันการกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่ราคา 1.70 บาท/หุ้นถือว่าเป็นระดับที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐาน
GSC เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 90 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 36% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด โดย ACAP ยังคงถือหุ้นใหญ่อยู่ 64% ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน คาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรกในวันที่ 13 มี.ค.นี้ในหมวดอุตสาหกรรมบริการ เชื่อว่าการเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก
ด้านนายอนุชัย วิทย์นลากรณ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ACAP กล่าวว่า การเปิดจองซื้อหุ้น IPO ของ GSC ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีนักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อ เข้ามาเป็นจำนวนมาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนักลงทุนมีความเชื่อมั่นในธุรกิจและศักยภาพการเติบโตสูง จากความเชี่ยวชาญและประสบการณ์กว่า 14 ปี ในการให้บริการด้านธุรกิจศูนย์บริการข้อมูลและธุรกิจติดตามทวงถามหนี้ที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพความแข็งแกร่งของทีมงาน และอัตราการเติบโตของ GSC ที่มีรายได้เติบโตต่อเนื่อง ดังนั้น เชื่อว่าการระดมทุนขอ งGSC ในครั้งนี้ จะยิ่งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ GSC มากยิ่งขึ้น และเชื่อว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนในระยะยาว
นางสาวสุดาภรณ์ กลิ่นแก้ว กรรมการผู้จัดการ GSC กล่าวว่า หลังจาก GSC ได้เม็ดเงินจากการระดมทุนในครั้งนี้จะเร่งนำไปขยายสาขา รวมถึงปรับปรุง พัฒนาอุปกรณ์และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ใช้ในการดำเนินงาน และนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการ ตามแผนขยายงานในอนาคต โดยเฉพาะการขยายสาขาทั้งภายในกรุงเทพและต่างจังหวัด เพื่อเพิ่มกำลังการให้บริการ และเป็นการกระจายความเสี่ยงทั้งในด้านของการจัดหาพนักงาน และการเป็นศูนย์การให้บริการสำรอง (Back-up Site) ในกรณีที่สาขาอื่นๆ เกิดเหตุที่ไม่สามารถทำงานได้ โดย GSC จะจัดตั้งขยายสาขาในกรุงเทพเพิ่มเติมอีก 1 สาขา คาดว่าจะสามารถเพิ่มจำนวนที่นั่งสูงสุด 300 ที่นั่ง และมีแผนขยายสาขาเพิ่มในต่างจังหวัด อีก 2 สาขา อาทิ ราชบุรี และสุพรรณบุรี เป็นต้น
นอกจากนี้ GSC ยังมีแผนปรับปรุงและพัฒนาอุปกรณ์และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ อาทิ ระบบปฏิบัติการ Avaya ระบบปฏิบัติการ 3CX ระบบบริหารจัดการลูกค้าสัมพันธ์ และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต่างๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการของบริษัทฯให้มีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้เพิ่มมากขึ้น ดังนั้น หลังจากนี้ต่อไป GSC จะเร่งยอดการขยายธุรกิจให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและสร้างผลการดำเนินงานให้เติบโตอย่างต่อเนื่องมั่นคงและยั่งยืน
ขณะที่ นายวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวเสริมว่า ด้วยวิสัยทัศน์การบริหารงานของทีมผู้บริหารของ GSC ในการมุ่งมั่นที่จะก้าวสู่การเป็นผู้นำการให้บริการงาน Outsource ต่างๆ ที่ครบวงจรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น ประกอบกับ แนวโน้มการเติบโตด้านผลการดำเนินงานที่โดดเด่นของ GSC ในช่วงที่ผ่านมา โดยจะเห็นได้จากในปี 59 มีรายได้จากการให้บริการ 135.38 ล้านบาท ปี 60 อยู่ที่ 151.53 ล้านบาท ขณะที่ปี 61 อยู่ที่153.89 ล้านบาท ทำให้เห็นว่าในอนาคตจะเห็นศักยภาพโอกาสการเติบโตที่มีความแข็งแกร่งมากขึ้นอย่างรวดเร็วตามแผนที่วางไว้