โบรกเกอร์ เห็นพ้อง"ซื้อ"หุ้น บมจ.ซีฟโก้ (SEAFCO) ที่มีความโดดเด่นจากงานในมือ (Backlog) แข็งแกร่งเพียงพอรับรู้รายได้ได้ทั้งปี 62 อีกทั้งยังมีงานที่คาดว่าจะได้ในอนาคตเพิ่มอีก หลังได้เข้าร่วมประมูลงานไปแล้วรวมมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท และมีโอกาสที่จะได้รับงาน 30%
ทั้งนี้ ปริมาณงานในมือสูงจะช่วยหนุนผลประกอบการดีในช่วงครึ่งแรกปีนี้ เบื้องต้นคาดว่าการรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีแรกยังอยู่ในระดับแข็งแกร่งใกล้เคียงครึ่งหลังปี 61 ตามความคืบหน้าของงานที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง ทั้งรถไฟฟ้าสายสีส้ม สายชมพู รวมถึง โครงการ The One Bangkok เป็นต้น
ด้านราคาหุ้น SEAFCO ปัจจุบันยังไม่สะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง อีกทั้งยังมี Sentiment บวกจากการเร่งประมูลงานโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งด้วย
ราคาหุ้น SEAFCO พักเที่ยงอยู่ที่ 7.85 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท หรือ 0.64% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย ปรับขึ้น 0.12%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) ฟินันเซีย ไซรัส ซื้อ 11.60 เอเชีย เวลท์ ซื้อ 11.30 ฟิลลิป (ประเทศไทย) ซื้อ 10.10 หยวนต้า (ประเทศไทย) ซื้อเก็งกำไร 11.10 เคจีไอ (ประเทศไทย) ซื้อ 12.00 เคที ซีมิโก้ ซื้อ 11.50
นางสาวจิตรา อมรธรรม รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า SEAFCO มีความโดดเด่นในเรื่องของ Backlog ซึ่งมีปริมาณมากมาตั้งแต่ไตรมาส 3-4 ปีที่แล้ว ส่งผลให้กำไรในปี 61 ออกมาเติบโตแรง แต่หากมองที่กำไรในปี 62 คาดว่าจะเติบโตได้น้อยกว่าปี 61 เนื่องจากฐานสูงขึ้น
อย่างไรก็ดี ราคาหุ้นที่ได้ปรับตัวลงมาทำให้เกิดความน่าสนใจในการลงทุน เพราะราคาหุ้นยังไม่สะท้อนพื้นฐานที่แข็งแกร่ง อีกทั้งยังมี Sentiment บวกจากการเร่งประมูลงานโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง
สำหรับปี 62 เบื้องต้น คงคาดการณ์กำไรที่ 355 ล้านบาท ลดลง 3% จากปีก่อน แต่ก็มีโอกาสปรับประมาณการขึ้น เนื่องจากสมมติฐานค่อนข้างอนุรักษ์นิยม จากรายได้ที่คาดไว้ 2.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.5% จากปีก่อน ต่ำกว่าที่ SEAFCO ตั้งเป้าเติบโต 10% จากปีที่แล้ว รวมถึงงานในมือ ณ เดือน ก.พ.62 คาดอยู่ที่ราว 2.2-2.5 พันล้านบาท รองรับเป้าหมายแล้ว 78-88% ขณะที่มีศักยภาพในการรับงานเพิ่มจากงานที่อยู่ระหว่างประมูล 2.3 หมื่นล้านบาท โดย SEAFCO ตั้งเป้ารับงานใหม่ 2-3 พันล้านบาท ซึ่งงานส่วนนี้จะเข้ามาช่วยเติมเต็มรายได้ตั้งแต่ครึ่งหลังปีนี้เป็นต้นไป
ส่วน บล.เอเชีย เวลท์ ระบุในบทวิเคราะห์ ยังคงชื่นชอบ SEAFCO ด้วย Backlog ที่แข็งแกร่งประมาณ 3.2 พันล้านบาท เพียงพอรับรู้รายได้ได้ทั้งปี 62 อีกทั้งยังมีงานที่คาดว่าจะได้ในอนาคตเพิ่มอีก โดย SEAFCO ได้เข้าร่วมงานประมูลไปแล้วรวมมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท คาดโอกาสได้รับงานที่ 30% ทำให้มองภาพรวมในอนาคตจะยังมีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ SEAFCO ตั้งเป้ารายได้ปี 62 เติบโต 10% หนุนจาก Backlog ที่มีมากถึง 3.2 พันล้านบาท เพียงพอรับรู้รายได้เต็มปี โดยคาดผลประกอบการปีนี้จะเติบโตดีอย่างต่อเนื่อง จึงปรับเพิ่มประมาณการรายได้จาก 2.8 พันล้านบาท มาที่ 3.1 พันล้านบาท โดยส่วนใหญ่หนุนจากงานก่อสร้างขนาดใหญ่ ได้แก่ งาน One Bangkok เฟส 4, งาน Bangkok Mall เฟส 1-3 เป็นต้น
นอกจากนี้ SEAFCO ยังมีงานระหว่างประมูลอีกกว่า 2 หมื่นล้านบาท ในสัดส่วนงานภาครัฐ และงานภาคเอกชน ที่ 70:30 โดยคาดโอกาสได้รับงานที่ 30% ขณะเดียวกันยังมีงานภาครัฐอื่นๆ ที่กำลังจะเปิดประมูลอีกในช่วงไตรมาส 1/62 เช่น งานรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน มูลค่างานก่อสร้างฐานรากประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ,งานรถไฟฟ้าสายสีแดงส่วนต่อขยาย 2 สาย มูลค่ารวม 1.7 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะเปิดประมูลได้ในเดือน มี.ค.-เม.ย.และงานรถไฟฟ้าสายสีส้มฝั่งตะวันตก มูลค่า 1.2 แสนล้านบาท เป็นต้น
ด้าน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่างานในมือสูงของ SEAFCO จะช่วยหนุนผลประกอบการดีช่วงครึ่งแรกปีนี้ โดยคาดว่าการรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีแรกยังอยู่ในระดับแข็งแกร่งใกล้เคียงครึ่งหลังปี 61 ตามความคืบหน้าของงานที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง ทั้งจากรถไฟฟ้าสายสีส้ม ชมพู รวมถึงโครงการ The One Bangkok ซึ่งมีสัดส่วนถึง 80% ของงานในมือที่ 2.5 พันล้านบาท บนมาร์จิ้นระดับ 20%
ส่วนผลประกอบการในช่วงครึ่งหลังปีนี้จะขึ้นอยู่กับงานใหม่ที่อยู่ระหว่างการประมูลในช่วงครึ่งปีแรก ขณะที่งานใหม่จากภาครัฐคาดทราบผลการประมูลและเริ่มรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งหลังปี 62 ซึ่งการรับงานยังเป็นได้ด้วยดีจากงานใหม่ในเดือน ม.ค.-ก.พ. ที่รับงานภาคเอกชนรวม 500 ล้านบาท งานหลักมาจากโครงการ Bangkok Mall บางนา-ตราด ซึ่งการที่ SEAFCO ตั้งเป้าทั้งปี รับงานใหม่ 3 พันล้านบาทยังมีความเป็นไปได้