นางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการฝายกลยุทธ์องค์กร บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD) กล่าวว่า จากกรณีที่บง.ศรีสวัสดิ์ (BFIT) มีแผนจะเพิ่มทุนจำนวน 330.78 ล้านหุ้น เสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมในราคาหุ้นละ 18 บาทนั้น ในฐานะที่บริษัทเป็นผู้ถือหุ้น BFIT สัดส่วน 45.34% ก็จะต้องนำประเด็นดังกล่าวไปหารือในคณะกรรมการของบริษัทอีกครั้ง เพื่อพิจารณาและศึกษาให้รอบด้านว่าจะใช้สิทธิเพิ่มทุนหรือไม่ โดยบริษัทจะคำนึงถึงผลประโยชน์ของบริษัทและผู้ถือหุ้นเป็นหลัก
อย่างไรก็ตามปีนี้กลุ่มศรีสวัสดิ์ ถือว่ามีความพร้อมในการดำเนินธุรกิจในทุกรูปแบบ หลังจากกฏระเบียนการปล่อยสินเชื่อมีความชัดเจนมากขึ้น ประกอบกับทางกลุ่มคาธ่ย์ไต้หวัน ซึ่งเป็นกลุ่มการเงินยักษ์ใหญ่ของประเทศไต้วัน ได้ใส่เงินเพิ่มทุนให้กับบริษัทกว่า 2.5 พันล้านบาท ทำให้มีความพร้อมทั้งด้านการแข่งขันและมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ขณะที่อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ของบริษัทไม่ถึง 2 เท่า
"เราขอศึกษารายละเอียดการเพิ่มทุนในบีฟิทก่อนที่จะตัดสินใจ คงต้องนำเรื่องหารืออในบอร์ด โดยจะเน้นผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นต่อบริษัทและผู้ถือหุ้นเป็นหลัก"นางสาวธิดา กล่าว
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการ BFIT เมื่อวานนี้ (6 มี.ค.) มีมติอนุมัติให้บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 1,102.49 ล้านบาท เป็น 2,756.23 ล้านบาท โดยออกเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 330.78 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้(พาร์) 5 บาท เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้นในอัตรา 1 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1.5 หุ้นสามัญเพิ่มทุน ในราคาเสนอขายหุ้นละ 18 บาท