นายโฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บมจ.ไทยวา (TWPC) เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจไตรมาส 1/62 เริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะธุรกิจผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลัง เนื่องจากราคาต้นทุนหัวมันสำปะหลังลดลง และเริ่มรับรู้รายได้ของ บริษัท แม่สอด สตาร์ช จำกัด และบริษัท แม่สอด ไบโอแก๊ส จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจเป็นผู้ผลิต และจำหน่ายแป้งมันสำปะหลัง และผลิตแก๊สชีวภาพ หลังเพิ่งได้เข้าซื้อกิจการดังกล่าวเข้ามา ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการผลิต และเป็นการกระจายแหล่งการจัดหาแหล่งวัตถุดิบ พร้อมทั้งสนับสนุนรายได้และกำไรของบริษัทให้สามารถเติบโตอย่างมั่นคงต่อเนื่องในระยะยาว
"ปัจจุบันบริษัทเริ่มเดินเครื่องผลิตเต็มที่ ซึ่งถือว่าปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ นอกจากนี้หลังจากซื้อโรงงานแม่สอด สตาร์ช จะส่งผลให้บริษัทมีวัตถุดิบเข้าสู่การผลิตมากขึ้น ช่วยเพิ่มกำลังการผลิตได้ประมาณ 15% จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตแป้งมันสำปะหลังอยู่ที่ 399,000 ตันต่อปี เป็น 465,000 ตันต่อปี ประกอบกับต้นทุนวัตถุดิบอยู่ในทิศทางลง มาอยู่ที่ระดับใกล้เคียงกับช่วงสิ้นปีก่อน ขณะที่ราคาส่งออกแป้งมันสำปะหลังคาดว่าจะสามารถทรงตัวอยู่ที่ 450 ดอลลาร์ต่อตันทั้งปีนี้"
นายโฮ เรน ฮวา กล่าวอีกว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี 62 คาดว่ารายได้จะเติบโต 6-8% จากปีก่อน เนื่องจากยอดขายทุกผลิตภัณฑ์มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากเริ่มรับรู้รายได้ของ บริษัท แม่สอด สตาร์ช การขยายกำลังการผลิตสินค้าในกลุ่มแป้งสำมันปะหลัง ที่มีมูลค่าเพิ่ม (HVA) โดยยังเน้นขยายตลาดในประเทศจีน และไต้หวัน เพราะยังมีความต้องการสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม บริษัทตั้งงบลงทุนรวมประมาณ 2,000 ล้านบาทภายในอีก 2 ปี โดยจะใช้ก่อสร้างโรงงานแป้งมันสำปะหลังที่กัมพูชา เฟส 2 คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 63 และจะใช้เพิ่มกำลังการผลิตกลุ่มสินค้า HVA ภายในประเทศ รวมทั้งจะใช้งบลงทุนในการก่อสร้างโรงไฟฟ้า จำนวน 2 โรง ซึ่งโรงไฟฟ้าดังกล่าวจะเป็นการช่วยลดต้นทุนในการผลิตในด้านการใช้พลังงานได้ประมาณ 30 ล้านบาทต่อปีต่อโรง
สำหรับผลการดำเนินงานปี 61 มียอดขายรวมเท่ากับ 7,248 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน โดยมาจากรายได้จากธุรกิจแป้งมันสำปะหลัง 3,272 ล้านบาท คิดเป็น 45% รายได้จากธุรกิจแป้งมันสำปะหลัง HVA จำนวน 2,560 ล้านบาท คิดเป็น 35% และรายได้จากธุรกิจอาหาร 1,452 ล้านบาทคิดเป็น 20%