นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวโน้มแกว่ง Sideway Down อาจปรับฐานลงช่วงเปิดตลาด แต่การปรับลดลงจะอยู่ในกรอบจำกัดเพราะตลาดปรับฐานมาก่อนหน้านี้บ้างแล้ว รวมถึงอาจจะรีบาวด์ได้ระหว่างวัน หลังจากมีปัจจัยบวกและลบผสมผสานเข้ามาทั้งจากในและต่างประเทศ โดยปัจจัยในประเทศ ที่น่าจะสร้างความกังวลให้กับตลาดจากเหตุระเบิดหลายจุดในจ.พัทลุงและสตูล เมื่อวานนี้ (10 มี.ค.) ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่เข้ามาเพิ่มเติม
ขณะที่ยังมีปัจจัยบวกจากการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 24 มี.ค.นี้ รวมถึง FTSE Rebalancing ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 15 มี.ค.นี้ โดยตลาดหุ้นไทยถูกเพิ่มน้ำหนักขึ้นจาก 1.83% เป็น 1.87% และมีหุ้นที่ถูกเพิ่มเข้าไปในดัชนี FTSE Big cap. Mid Cap. Small Cap. หลายตัวด้วยกัน
ส่วนปัจจัยจากต่างประเทศ ตลาดยังมีความหวังความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน แต่ก็ยังต้องจับตาการที่รัฐสภาอังกฤษจะโหวตข้อตกลงการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) อีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (12 มี.ค.) และล่าสุดรัฐบาลนอร์เวย์ ออกมาระบุว่ากองทุนความมั่งคั่งของนอร์เวย์ จะลดน้ำหนักการลงทุนกลุ่มพลังงาน โดยจะเทขายหุ้นในกลุ่มบริษัทสำรวจ-ผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่อยู่ในพอร์ต แต่บริษัทที่ลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงานครบวงจร ซึ่งมีโรงกลั่น และอุตสาหกรรมปลายน้ำ จะไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด
สำหรับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ ที่เพิ่มขึ้นเพียง 20,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.60 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 180,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานร่วงลงสู่ระดับ 3.8% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงสู่ระดับ 3.9% นั้นตลาดหุ้นสหรัฐไม่ได้ตอบรับมากนัก โดยดัชนีดาวโจนส์เมื่อคืนวันศุกร์ปรับลดลงเล็กน้อย
พร้อมมองแนวรับที่ 1,620 และ 1,615 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,637 จุด