นายสุเทพ วงศ์วรเศรษฐ ประธานกรรมการบริหาร บล.ซีมิโก้ (ZMICO) เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมมือกับเอเลเวเท็ต รีเทิร์น (Elevated Returns หรือ ER) ต่อยอดการทำงานด้วยการนำเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญในผลิตภัณฑ์ของ ER มาประกอบกับความรู้ความเชี่ยวชาญในตลาดไทยของบริษัทจะเข้ามาช่วยปฏิวัติวงการอสังหาริมทรัพย์ในไทยแบบเดิมให้เกิดสิ่งใหม่ที่จะนำไปสู่การดำเนินธุรกิจในรูปแบบดิจิทัลอย่างแท้จริง
โดยบริษัท เอสอี ดิจิทัล ในเครือของ ZMICO กำลังอยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตเป็นผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO Portal) จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งจะอนุมัติให้เฉพาะบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศไทยและมีคนไทยเป็นเจ้าของเท่านั้น
การเสนอขายครั้งแรกในรูปแบบของเหรียญดิจิทัลนั้นจะต้องผ่านการประเมิน การจัดการ และให้คำแนะนำตามระเบียบใหม่ของการทำ ICO ในฐานะพันธมิตรของ ก.ล.ต. ซึ่งจะเทียบได้กับการขอใบอนุญาตวาณิชธนกิจเพื่อการซื้อขายแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์ดิจิทัล การจับมือระหว่างบริษัทและ ER จึงถือเป็นการเริ่มธุรกิจครั้งแรกของเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศ
นายสเตฟาน เดอ เบตส์ ผู้ก่อตั้งและประธานบริหาร บริษัท เอเลเวเท็ต รีเทิร์น กล่าวว่า จากศักยภาพการเติบโตของประเทศไทย และการเปิดรับการดำเนินธุรกิจในรูปแบบดิจิทัล จากการสนับสนุนของภาครัฐที่จะนำพาประเทศไทยไปสู่การเป็นไทยแลนด์ 4.0 และความตั้งใจของบริษัทที่จะนำเทคโนโลยีมาใช้กับภาคอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศไทย รวมไปถึงการขยายธุรกิจของบริษัทเข้ามาในประเทศไทย ทำให้บริษัทตัดสินใจเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ ZMICO สัดส่วน 21% มูลค่า 467.1 ล้านบาท เมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา
บริษัทมีแผนจะพลิกวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยด้วยการเปิดขาย ICO ที่ประสบความสำเร็จเดียวกับที่สหรัฐ ที่สามารถระดมทุนได้ 18 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ผ่านการขายโทเคนของโรงแรมเซนต์ รีจิส แอสเพน รีสอร์ต ถือว่าเป็นการเสนอขาย ICO ของโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับนานาชาติครั้งแรกของโลก
ทั้งนี้ การร่วมมือกับ ZMICO ที่มีความเชี่ยวชาญตลาดในไทย และมีฐานลูกค้าในประเทศและช่องทางการจัดจำหน่ายที่กว้างขวาง ทำให้บริษัทตั้งเป้ายอดขายโทเคนในปี 62 ไว้ที่ 100 ล้านดออลาร์สหรัฐฯ โดยที่การระดมทุน ICO ของบริษัทในประเทศไทยวางแผนเปิดตัวในช่วงไตรมาส 2/62 หรือไตรมาส 3/62
"การขยายธุรกิจเข้ามาในไทยของบริษัท เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่การทำธุรกรรมทางมือถือกำลังเติบโตสูงถึง 74% ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่สูงมากในโลก และการถือครองคริปโตที่เติบโตเป็นอันดับ 2 ในเชิงจำนวนผู้ถือคริปโต 9.9% ของจำนวนประชากรผู้ไช้อินเทอร์เน็ตไทย และการที่ก.ล.ต.เล็งเห็นความสำคัญกับอุตสาหกรรมนี้ในประเทศไทย และกฏระเบียบที่ออกมาเป็นการสนับสนุนอุตสาหกรรมบล็อกเชนมากที่สุด ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของบริษัทในการเข้ามาระดมทุนในประเทศไทยในครั้งนี้"นายสเตฟาน กล่าว