นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโส ฝ่ายการเงินและบริหาร บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 62 จะเติบโต 5% จากปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 21,803.54 ล้านบาท เป็นไปตามการเติบโตทั้งธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอาหาร
ทั้งนี้ ธุรกิจโรงแรมในปีนี้คาดอัตราการเข้าพัก (occupancy rate) จะอยู่ในช่วง 83-85% จากปีก่อนอยู่ที่ 82.6% และคาดรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPar) จะเติบโตประมาณ 4-6% จากปีก่อนลดลง 0.1% โดยปีนี้บริษัทมีแผนเปิดโรงแรมใหม่เพิ่มอีก 1 แห่ง ได้แก่ โคซี่ พัทยา นาเกลือ บีช (COSI Pattaya Naklua Beach) ขนาด 282 ห้อง มีกำหนดการเปิดให้บริการในเดือนก.ย.นี้
ขณะที่บริษัทรับจ้างบริหารโรงแรมเพิ่มอีก 3 แห่ง ได้แก่ เซ็นทารา เวสต์เบย์ เรสซิเดนซ์และสวีท โดฮา ที่จะเปิดให้บริการในไตรมาส 4/62, โรงแรมเซ็นทารา ซันไรซ่า เรสซิเดนซ์ แอนด์ สวีท ศรีราชา คาดเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 1/62 และโรงแรมเซ็นทารา อ่าวนาง บีช รีซอร์ทแอนด์สปา จ.กระบี่ คาดจะเปิดตัวได้ในไตรมาส 3/62
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนจะปิดปรับปรุงโรงแรมจำนวน 2 แห่ง ได้แก่ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ที่จะเริ่มทยอยปรับปรุงตั้งแต่ไตรมาส 2/62 เป็นต้นไป ใช้ระยะเวลาปรับปรุงประมาณ 22 เดือน และวางงบลงทุนไว้ไม่เกิน 700 ล้านบาท รวมถึงจะปรับปรุงโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ บีช รีสอร์ท สมุย ซึ่งจะเป็นการปิดปรับปรุงทั้งหมด คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 1 ปี เริ่มดำเนินการปรับปรุงตั้งเดือนมิ.ย.62 เป็นต้นไป วางงบลงทุนไม่เกิน 1,200 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ บีช รีสอร์ท สมุย เป็นทรัพย์สินในกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา และบริษัทย่อยของ CENTEL ก็ได้ทำสัญญาเช่ามาบริหาร โดยในช่วงของการปิดปรังปรุงโรงแรมดังกล่าว บริษัทย่อยจะยังคงจ่ายค่าเช่าตามเดิม ซึ่งมีค่าเช่าคงที่อยู่ที่ 168 ล้านบาท/ปี โดยบริษัทมีสัดส่วนการถือหน่วยในกองทุนรวมฯ 25.34% ของหน่วยทั้งหมดของกองทุนรวม
สำหรับธุรกิจอาหารในปีนี้ตั้งเป้ายอดขายสาขาเดิม (SSS) จะเติบโต 3-4% จากปีก่อนอยู่ที่ 0.1% และยอดขายโดยรวม (TSS) จะเติบโต 8-10% จากปีก่อนทำได้ 9.3% ตามการฃยายสาขาที่จะเพิ่มเป็น 1,050 สาขา จากสิ้นปีอยู่ที่ 956 สาขา โดยจะมีการขยายสาขาของแบรนด์ใหม่ หรือ ร้านอร่อยดี เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับยังมีแผนออกเมนูใหม่ เช่น ชีสลาวาไข่เค็ม ของร้านอานตี้ แอนส์ ขณะเดียวกันมองการเลือกตั้งยังช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นและส่งผลดีต่อกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้น
นายรณชิต กล่าวว่า บริษัทวางงบลงทุน 3 ปี (62-64) ไว้ที่ 26,000 ล้านบาท โดยจะแบ่งเป็นปี 62 ที่ 7,500 ล้านบาท, ปี 63 ที่ 11,000 ล้านบาท และปี 64 ที่ 7,500 ล้านบาท ซึ่งในงบลงทุนรวมดังกล่าวจะใช้ในการมองหาโอกาสทางธุรกิจทั้งในธุรกิจโรงแรมและอาหาร จำนวน 10,800 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาเข้าซื้อกิจการ (M&A) หลายรายในธุรกิจอาหารและโรงแรมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ประกอบกับยังมองโอกาสเข้าลงทุนโรงแรมในประเทศญี่ปุ่นเพื่อรองรับงานเวิลด์ เอ็กซ์โป ในปี 68
"ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่ท้าทายของเราพอสมควร เนื่องจากเรามีแผนปิดปรับปรุงโรงแรมถึง 2 โรงแรม และจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เริ่มกลับเข้ามา ก็มีการต่อรองเรื่องของราคามากขึ้น ทำให้อุตสาหกรรมฯ มีการแข่งขันสูง แต่บริษัทฯ ก็มีการปรับแผน และจะดำเนินการให้มีรายได้สูงขึ้น"นายรณชิต กล่าว