หุ้น GSC ปิดเทรดช่วงเช้าที่ 2.32 บาท เพิ่มขึ้น 0.62 บาท (+36.47%) จากราคาขาย IPO ที่ 1.70 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 305.18 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 2.04 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 2.32 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 2.04 บาท
บล.โกลเบล็ก ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า ราคา IPO ของบมจ.โกลบอล เซอร์วิส เซ็นเตอร์ (GSC) ที่ 1.70 บาท/หุ้น คิดเป็น Current PER ที่ 30.51 เท่า สูงกว่าบริษัทที่ทำธุรกิจใกล้เคียงกันในตลาดหลักทรัพย์โดยมี PER เฉลี่ย 23 เท่า โดยมีหุ้นของผู้มีส่วนร่วมในการบริหารที่ไม่ติด Silent Period จำนวน 22.5 ล้านหุ้น คิดเป็น 9.0% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ACAP เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สัดส่วน 64%
GSC ประกอบธุรกิจหลัก 2 ธุรกิจ ได้แก่ (1) ธุรกิจศูนย์บริการข้อมูล และ (2) ธุรกิจติดตามและทวงถามหนี้ โดยผลประกอบการปี 61 บริษัทมีรายได้รวม 154 ล้านบาท ทรงตัว YoY มีสัดส่วนรายได้หลักมาจากธุรกิจศูนย์บริการข้อมูล 66% และธุรกิจติดตามและทวงถามหนี้ 33% โดยบริษัทมีกำไรสุทธิปี 61 อยู่ที่ 14 ล้านบาท ลดลงถึง 47% YoY เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของค่าตอบแทนพนักงานเพื่อจูงใจให้พนักงานอยู่กับบริษัทฯ รวมถึงตั้งโบนัสค้างจ่ายให้แก่พนักงานในงวดปี 61 ประกอบกับบริษัทมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai)
โดยจำนวนหุ้นที่เสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 90 ล้านหุ้น มูลค่าประมาณ 153 ล้านบาท ใช้เป็นเงินทุนในการขยายสาขา ใช้ปรับปรุงและพัฒนาระบบ IT และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
นายอนุชัย วิทย์นลากรณ์ กรรมการ ของ GSC กล่าวว่า หุ้นของบริษัทที่เข้าซื้อขายใน mai วันแรกได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน ทั้งนี้ เป็นผลมาจากความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐาน และศักยภาพความแข็งแกร่งทางธุรกิจ ดังนั้น ภายหลังจากที่ได้เม็ดเงินจากการระดมทุน จะเร่งนำไปขยายสาขาภายในกรุงเทพฯ 1 แห่ง คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จ ได้ในไตรมาส 2/62 และที่ต่างจังหวัด อีก 2 แห่ง อาทิ ราชบุรี และสุพรรณบุรี คาดว่าจะแล้วเสร็จ ภายในไตรมาส 4/62
ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มกำลังการให้บริการ และเป็นการกระจายความเสี่ยง ทั้งในด้านของการจัดหาพนักงาน และการเป็นศูนย์การให้บริการสำรอง (Back-up Site) ในกรณีที่สาขาอื่นๆ เกิดเหตุที่ไม่สามารถทำงานได้