III ตั้งเป้ารายได้ปี 62-64 โตเฉลี่ยกว่า 20% กำไรนิวไฮต่อเนื่อง,เจรจาลงทุน-ซื้อกิจการคาดสรุป 1 ดีลในปี 62-63

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 27, 2019 17:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ (III) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 62-64 จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ต่อปี และคาดกำไรสุทธิจะทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง โดยจะเติบจากในทุกๆ กลุ่มธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นในกลุ่มการขนส่งทางเรือ และคลังสินค้าเคมีภัณฑ์

ขณะที่ปี 62 ซึ่งบริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตไว้ที่ 20% เช่นกัน จากปี 61 ที่บริษัทมีรายได้รวม 2.77 พันล้านบาท ขณะที่คาดว่าอัตรากำไรสุทธิจะปรับตัวสูงขึ้นกว่าปี 60 ที่เคยทำไว้ 5.6% ซึ่งปี 61 หดตัวลงเล็กน้อยมาที่ 5.4% โดยกำไรในปีนี้จะมาจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรและรายได้จากธุรกิจใหม่ที่เข้าไปลงทุน

อนึ่ง III แจ้งผลประกอบการปี 61 บริษัทมีกำไรสุทธิ 150.7 ล้านบาท เติบโต 16.2% จากปี 60

ทั้งนี้ ในปี 61 ที่ผ่านมาบริษัทเข้าลงทุนใน DG packaging Pte., Ltd. ในสิงคโปร์ การันตีส่วนแบ่งกำไรไม่ต่ำกว่าปีละ 2.2 ล้านเหรียญสิงคโปร์ รวมทั้งเมื่อต้นปีนี้ได้เข้าลงทุนใน Around Logistics Management Company Limited ในฮ่องกง ซึ่งดำเนินกิจการให้บริการภาคพื้นอากาศยานและผู้โดยสาร การันตีส่วนแบ่งกำไรไม่ต่ำกว่าปีละ 20 ล้านเหรียญฮ่องกง

นอกจากนั้น บริษัทยังเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับสายการเดินเรือริเชาของประเทศจีน โดยให้บริการเต็มรูปแบบตั้งแต่เดือน ม.ค.61 เป็นต้นมา และเป็นพันธมิตรกับซีเคไลน์ของเกาหลีใต้ ซึ่งมีแผนขยายธุรกิจโดยเพิ่มระวางการขนส่ง รวมถึงขยายการให้บริการไปยังท่าเรืออื่น ๆ ซึ่งจะสร้างโอกาสขของบริษัทในการเติบโตของธุรกิจดังกล่าวได้ดียิ่งขึ้น

อีกทั้งบริษัทยังมีแผนขยายธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการขนส่งสินค้าในระบบตู้คอนเทนเนอร์ ทั้งที่เป็นการเติบโตตามพันธมิตรของสายการเดินเรือ การขยายธุรกิจเพื่อรองรับการขนส่งสินค้าข้ามชายแดนและการขยายตัวของเศรษฐกิจในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC)

ด้านธุรกิจบริหารจัดการโลจิสติกส์ บริษัทมีแผนในการพัฒนาการให้บริการด้านโลจิสติกส์ที่รองรับกลุ่มลูกค้า E-Commerce ในส่วนของการกระจายสินค้าภายในประเทศด้วยการขนส่งสินค้าทางอากาศ โดยส่วนของไปรษณีย์ไทยคาดว่าจะกลับมาใช้บริการขนส่งสินค้าใต้ท้องเครื่องบินได้อีกครั้งในช่วงครึ่งปีหลัง โดยปัจจุบันเริ่มกลับมาใช้บริการที่สนามบินสุวรรณภูมิแล้วหลังจากปรับปรุงมาตรฐานต่างๆเรียบร้อยแล้ว ขณะที่ธุรกิจให้บริการคลังสินค้าระหว่างประเทศที่ท่าอากาศยานดอนเมือง เริ่มมีการเติบโตที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมากในขณะนี้นั้น บริษัทมั่นใจว่ายังมีการบริหารจัดการที่ดี โดยบริษัทได้ทำประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนไว้แล้วทั้ง 100% สำหรับครึ่งแรกของปี 62 รวมทั้งใช้แนวทางการบริหารอัตราแลกเปลี่ยนดวยการสร้างสมดุลระหว่างรายรับและรายจ่ายในสกุลเงินตราต่างประเทศ ตลอดจนปรับเพิ่มสัดส่วนรายได้สกุลเงินบาทจากการขยายบริการในประเทศและการส่งออก จึงไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัทมากนัก ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีรายได้เป็นสกุลดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น สัดส่วน 50% ของรายได้รวม

นายทิพย์ กล่าวว่า แนวโน้มค่าระวางในปี 62 นั้น บริษัทมองว่าปีนี้ยังมีปริมาณการขนส่งสินค้าหนาแน่นขึ้นทั้งทางอากาศและทางทะเล อย่างไรก็ตาม แนวโน้มค่าระวางยังคงทรงตัว แต่คาดว่าจะยังคงใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของครึ่งหลังปี 61 แต่อย่างไรก็ดี จากการที่บริษัทเป็นผู้ให้บริการและบริการจัดการโลจิสติกส์ ซึ่งเน้นการให้บริการและคิดค่าบริการจากส่วนต่างของราคาซื้อขาย จึงทำให้บริการได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มากนัก

นายทิพย์ ยังเปิดเผยอีกว่า บริษัทยังมองหาโอกาสในการเข้าลงทุนหรือซื้อกิจการอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มการเติบโตแบบ Inorganic โดยภายในปี 62-63 นี้จะต้องสรุปการเข้าซื้อกิจการหรือร่วมลงทุนให้ได้อย่างน้อย 1 ดีล

ขณะที่บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจาหาพันธมิตรในธุรกิจคลังสินค้าเพื่อขยายพื้นที่คลังสินค้ารองรับกลุ่มลูกค้าเคมีภัณฑ์อีก 5,000-10,000 ตารางเมตรอยู่ใกล้เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เนื่องจากพื้นที่ในเครือข่ายของบริษัท 21,500 ตารางเมตร มีอัตราการใช้มากกว่า 90% แล้ว ทั้งนี้รูปแบบอาจจะเป็นการเช่า หรือ เข้าร่วมลงทุน คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 2/62

https://youtu.be/pb3B1sbX8Is


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ