นางสาวรุ่งฉัตร บุญรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.มาลีกรุ๊ป (MALEE) คาดว่า ผลประกอบการในปีนี้จะฟื้นตัวดีขึ้น โดยคาดว่าจะขาดทุนลดลงต่อเนื่อง จากปีก่อนที่มีผลขาดทุนอยู่ที่ 272.62 ล้านบาท เนื่องจากปีนี้จะไม่มีค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการตั้งสำรองค่าเผื่อการลดมูลค่าสินค้าคงเหลือ จากเดิมที่การบันทึกค่าใช้จ่ายทั้งจำนวนเมื่อสินค้าหมดอายุแล้ว มาเป็นการตั้งสำรองฯตามอายุสินค้า และการปรับเพิ่มของภาระผูกพันผลประโยชน์พนักงานในส่วนของอัตราค่าชดเชยให้กับลูกจ้างที่ทำงานตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป จากเดิม 300 วัน เป็น 400 วัน ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานฉบับใหม่
ขณะที่บริษัทจะมุ่งเน้นการควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านการบริหาร และในปีนี้จะไม่มีการลงทุนขนาดใหญ่ที่มีนัยสำคัญ แต่จะเป็นเพียงการลงทุนปรับปรุงเครื่องจักรตามปกติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต วางงบลงทุนไว้ที่ 100 ล้านบาท
ในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายเติบโต 5-10% โดยจะมุ่งเน้นการเติบโตของยอดขายต่างประเทศ ได้แก่ เวียดนาม กัมพูชา จีน เมียนมา เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนยอดขายจากต่างประเทศอยู่ที่ 32% และในประเทศ 68% ซึ่งตลาดในประเทศปีนี้มองว่ายอดขายอาจจะไม่ได้เติบโตมากนัก เป็นไปตามอุตสาหกรรมเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่ยังคงทรงตัว แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมีแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยในช่วงที่ผ่านมาได้มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้ชื่อ Malee Flo (มาลี โฟล) ซึ่งเป็นน้ำผลไม้ที่มีใยอาหาร ช่วยกระตุ้นการขับถ่ายให้ดีขึ้น ขณะเดียวกันธุรกิจพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามสัญญาและรับจ้างผลิต (CMG) ปัจจุบันก็มีลูกค้าใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มขึ้น
"ในปีนี้เราพยายามใช้ประโยชน์จากสิ่งที่เราลงทุนไว้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ก็จะเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการควบคุมค่าใช้จ่าย และประเมินโปรดักซ์ไหนที่ยอดขายไม่ดีก็จะเอาออก เพื่อลดการผลิต และการสต็อกสินค้า"นางสาวรุ่งฉัตร กล่าว