นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนรับรู้รายได้ในไตรมาสแรกของปี 2551 มากกว่า 2 พันล้านบาท จาก 2 โครงการใหญ่ คือ ลุมพินี เพลส ปิ่นเกล้า 2 และลุมพินี เพลส รัชดา-ท่าพระ
โตกว่าปีก่อนกว่า 120%
จากการเปิดให้ลูกค้าเข้าตรวจรับสภาพห้องชุดในโครงการลุมพินี เพลส รัชดา-ท่าพระ เมื่อวันที่ 18-19 มกราคมที่ผ่านมา พบว่ามีลูกค้าที่รับมอบห้องชุดเพื่อเตรียมพร้อมในการโอนกรรมสิทธิ์ไปแล้วจำนวนกว่า 80% ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
โครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนด้านสินเชื่อจาก 5 สถาบันการเงินชั้นนำ ได้แก่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารนครหลวงไทย ธนาคารทหารไทย ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารกรุงเทพ
นายโอภาส กล่าวว่า LPN จะมุ่งเน้นการพัฒนาอาคารชุดพักอาศัยไปยังกลุ่มที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยจริง (Real Demand) ที่มีอยู่จำนวนมาก โดยไม่ได้เกาะกระแสความนิยมรถไฟฟ้าไปตามผู้ประกอบการอื่นๆ ที่ปัจจุบันการแข่งขันมีมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ยอดขายของ LPN ยังคงเป็นไปตามกลไกความต้องการที่อยู่อาศัยจริง
"ถึงแม้ขณะนี้ทั่วโลกจะหวั่นวิตกจากปัญหาซับไพรม์ แต่การดำเนินธุรกิจของ LPN จะมุ่งเน้นไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีความต้องการอยู่จริง นั่นคือเหตุผลที่ทำไม LPN จึงหันไปให้ความสำคัญกับตลาดในกลุ่มระดับกลาง-ล่างมากขึ้น เนื่องจากเห็นช่องว่างทางการตลาดที่ยังมีอยู่จำนวนมาก และด้วยประสบการณ์ในการพัฒนาอาคารชุดพักอาศัย บวกกับความสามารถในการควบคุมต้นทุน และการได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรด้านงานก่อสร้างจะทำให้ LPN ยังคงรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ได้ที่ 30% ดังนั้น LPN จึงถือว่าเป็นองค์กรที่มีพื้นฐานที่แข็งแกร่งและแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยยอดขายรอรับรู้รายได้ (backlog) จำนวนมากตลอด 2 ปีนี้"นายโอภาส กล่าวเสริม
--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--