นายณัฐขจร ญาณภิรัต รองกรรมการผู้อำนายการสายการเงิน บัญชี และเทคโนโลยีสารสนเทศ บมจ.สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี (SAT) กล่าวว่า ภาพรวมผลประกอบการปี 62 บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมจะเติบโต 4-5% จากปีก่อน ซึ่งถือว่าเติบโตมากกว่ายอดผลิตรถยนต์ปีนี้ที่คาดว่าจะใกล้เคียงปีก่อนที่ 2.17 ล้านคัน
บริษัทเชื่อว่ายอดขายรถยนต์ในประเทศน่าจะมีทิศทางการเติบโตที่ดีต่อเนื่องจากปีก่อนที่ขยายตัวราว 19% โดยคาดว่ายอดขายรวมมีโอกาสสูงกว่า 1 ล้านคัน ขณะที่ยอดการส่งออกรถยนต์ยังคงมีทิศทางทรงตัว เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงจากสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ แม้ว่าจะไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงกับบริษัท เพราะไม่มีนโยบายกีดกันทางการค้าสินค้าที่บริษัทผลิตอยู่ แต่อาจจะกระทบทางอ้อมจากกำลังซื้อในประเทศที่นำเข้ารถยนต์จากไทย อย่างไรก็ตาม หากมองในทางกลับกันก็อาจจะมีบางประเทศที่ยังมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว
นอกจากนี้ บริษัทยังมีการรับรู้รายได้เต็มปีจากคำสั่งซื้อใหม่เพลาข้างรถกะบะที่เข้ามาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วมูลค่ากว่า 300 ล้านบาทเข้ามาในปีนี้
สำหรับกลุ่มธุรกิจเครื่องจักรกลทางการเกษตร เชื่อว่าทั้งปีน่าจะเติบโตได้ตามภาพรวมของอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะเติบโต 6-7% โดยบริษัทมียอดคำสั่งซื้อจากกลุ่มคูโบต้าที่เข้ามาต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีปัจจัยเสี่ยงจากปัญหาภัยแล้งที่เข้ามาเร็วกว่าคาดในปีนี้ แต่ทางคูโบต้า ได้หันมามุ่งเน้นตลาดส่งออกมากขึ้นจากปีก่อนที่มียอดส่งออก 55% ดังนั้น แม้จะมีปัญหาภัยแล้งที่ส่งผลกระทบกับกำลังซื้อของเกษตรกรไทย แต่ก็น่าจะเป็นผลกระทบในวงที่จำกัดต่อยอดขายของคูโบต้า
ขณะที่โครงสร้างรายได้ของบริษัทในปีนี้ยังน่าจะใกล้เคียงปีก่อน โดยธุรกิจเครื่องจักรกลทางการเกษตรมีสัดส่วน 19% และกลุ่มธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ 81% ของยอดขายทั้งหมด
ผู้บริหาร SAT ยืนยันว่า ทิศทางอัตรากำไรสุทธิปีนี้ยริษัทจะพยายามรักษาให้อยู่ในระดับ 11.20% ใกล้เคียงปีก่อน แม้ว่าอัตราแลกเปลี่ยนและราคาวัตถุดิบจะมีความผันผวน แต่บริษัทสามารถปรับราคาขายได้ตามราคาต้นทุนที่เปลี่ยนแปลงไป ขณะที่บริษัทได้วางงบลงทุนปีนี้ 400-500 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการลดต้นทุน เพิ่มเพื่อศักยภาพทำกำไรให้ดีขึ้นในอนาคต รวมทั้งการปรับปรุงและซ่อมบำรุงสายการผลิตเดิม
ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/62 เชื่อว่าจะเติบโตได้ดีกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน เพราะลูกค้าส่วนมากจ่ายเงินได้เร็วขึ้นเป็น 2-3 เดือน จากเดิมอาจใช้เวลา 6 เดือน ซึ่งนับเป็นสัญญาณบวกที่ดีกับผลการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปี ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส2/62 อาจจะชะลอบ้าง แต่เป็นไปตามปัจจัยด้านฤดูกาลตามปกติ
ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการแตกไลน์ธุรกิจใหม่ แต่ยังเกี่ยวเนื่องกับในอุตสาหกรรมยานยนต์ เพื่อคาดหวังช่วยต่อยอดธุรกิจในระยะยาว เบื้องต้นคาดว่าจะได้ข้อสรุปชัดเจนภายในไตรมาส 3/62