นายปิยวัชร ราชพลสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการบัญชีและการเงิน บมจ. ดูเดย์ดรีม (DDD) เปิดเผยว่า บริษัทยังเดินหน้าขยายตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นไปที่กลุ่มอาเซียนเป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรในอินโดนีเซียและมองหาพันธมิตรในประเทศเวียดนาม เพื่อแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าของบริษัทเพิ่มเติม คาดว่าในอินโดนีเซียจะเห็นความชัดเจนช่วงกลางปีนี้ โดยจะโฟกัสตลาดหัวเมืองใหญ่ เช่น จาการ์ตา และหากสามารถทำยอดขายได้ดีบริษัทก็อาจจะมีการพิจารณาเข้าร่วมลงทุน (JV)กับพันธมิตรท้องถิ่นต่อไป
ในส่วนของประเทศเวียดนาม มองว่าตลาดสกินแคร์เติบโตอย่างมาก โดยเติบโตแต่ละปีเป็นตัวเลข 2 หลัก แม้ว่าจะมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ราว 10,000 ล้านบาท/ปี ถือว่าเล็กกว่าเมื่อเทียบกับตลาดในประเทศไทยและฟิลิปปินส์ แต่มีการเติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียว โดยไทยอยู่ที่ 7% ต่อปี และฟิลิปปินส์อยู่ที่ 5-7% ต่อปี ทำให้มองเป็นโอกาสในการขยายตลาด และน่าจะส่งผลดีกับแบรนด์ของบริษัทที่คนในประเทศเวียดนามสามารถจดจำแบรนด์สินค้าได้ง่าย คาดว่าจะเห็นการเซ็นสัญญาแต่งตั้งตัวแทนจัดจำหน่ายในเวียดนามได้ในช่วงปลายปีนี้ ขณะที่ในช่วงกลางปีนี้บริษัทก็มีแผนเข้าไปดูตลาดเองด้วย
อย่างไรก็ตาม การขยายตลาดด้วยการเพิ่มตัวแทนการจัดจำหน่ายสินค้าของบริษัทในประเทศดังกล่าวคาดว่าหากเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ก็จะเริ่มเห็นยอดขายค่อยๆ ทยอยเพิ่มเข้ามาตั้งแต่ปี 63 เป็นต้นไป โดยปีนี้บริษัทฯ ยังคงเป้าสัดส่วนการส่งออกจะอยู่ที่ 20-25% ใกล้เคียงปีก่อน
สำหรับแผนการดำเนินงานในปีนี้บริษัทยังคงเป้าหมายยอดขายเติบโต 15% เป็น 1,450 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 1,250 ล้านบาท เป็นไปตามการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์เดิม ได้แก่ SNAIL WHITE มีแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มอีก 1 ผลิตภัณฑ์ จำนวน 4 SKUs, แบรนด์ PRETTii FACE จะออกอีก 4 ผลิตภัณฑ์ จำนวน 4 SKUs, แบรนด์ SoS (เอะสึ โอ เอะสึ) ออก 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ จำนวน 4SKUs และ Oxe Cure ออก 1 ผลิตภัณฑ์ จำนวน 1 SKUs รวมเป็นในปีนี้จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งสิ้น 8 ผลิตภัณฑ์ และมีจำนวน 13 SKUs
อีกทั้งยังมีแผนขยายตลาดในประเทศ โดยมุ่งเน้นตามหัวเมืองที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวค่อนข้างมาก ทั้งในจังหวัดกรุงเทพฯ, ภูเก็ต,ชลบุรี,สุราษฎร์ธานี, กระบี่, พังงา, เชียงใหม่, สงขลา, ประจวบคีรีขันธ์ และตราด เป็นต้น
"เราตั้งใจจะเป็นผู้นำตลาดสินค้าบำรุงผิวหน้าในประเทศไทย จากปัจจุบันมีมาร์เก็ตแชร์อยู่ที่อันดับ 6 โดยปีนี้ตั้งเป้ามีมาร์เก็ตแชร์ 1 ใน 3 ให้ได้ จากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ และเพิ่มช่องทางการขาย จากปัจจุบันเรามีแบรนด์ทั้งสิ้น 4 แบรนด์ ได้แก่ สินค้าเพื่อความงามแบรนด์ SNAIL WHITE, PRETTii FACE และ SoS (เอะสึ โอ เอะสึ) โดย SNAIL WHITE ปีนี้จะเน้นการขายผ่านช่องทางห้าง Modern Trade, ร้านค้าแบบดั่งเดิมและส่งออก ส่วน PRETTii FACE จะเน้นการขยายผ่านออนไลน์มากขึ้น และ SoS (เอะสึ โอ เอะสึ) จะเน้นขายผ่าน Modern Trade ด้านสินค้าเวชภัณฑ์ ภายใต้แบรนด์ Oxe Cure จะโฟกัสไปยังร้านขายยาและโรงพยาบาล"นายปิยวัชร กล่าว