ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2562 ของ บมจ.ทางด่วนแลรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) วันนี้มีมติมากกว่า 3 ใน 4 ให้บริษัทและบริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ยุติข้อพิพาททั้งหมดกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) โดยการทบทวนและแก้ไขสัญญาโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 สัญญาเพื่อการต่อขยายโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 (ส่วนดี) และสัญญาโครงการทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด ซึ่งในการยุติข้อพิพาททั่งหมดดังกล่รส กทพ.และบริษัท /บริษัทย่อย ตกลงที่จะมีการขยายระยะเวลาสัญญาสัมปทานไปเป็น 21 เม.ย.พ.ศ.2600 รวมทั้ง อัตราค่าผ่านทางจะมีการปรับเพิ่มขึ้นแบบคงที่ทุกระยะเวลา 10 ปี และให้บริษัทลงทุนปรับปรุงระบบทางด่วนขั้นที่ 2 ใช้เงินประมาณ 3.15 หมื่นล้านบาท
นายพงศ์สฤษดิ์ ตันติสุวณิชย์กุล กรรมการบริษัท BEM กล่าวว่า บริษัทได้ผ่านขั้นตอนการเจรจากับคณะกรรมการ กทพ.แล้ว ขณะนี้ เรื่องได้เข้ากระทรวงคมนาคมก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติต่อไป ซึ่งเชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลนี้หรือรัฐบาลใหม่ก็คงให้ความเห็นชอบเพราะเป็นประโยชน์กับประชาชน และแม้ว่าจะมี พ.ร.บ.ร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน พ.ศ.2562 มีผลบังคับใช้แล้วก็จะไม่มีผลต่อกรณีดังกล่าว เพราะในบทเฉพาะกาลระบุให้ดำเนินการต่อเนื่อง