นายแม่ทัพ ต.สุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บมจ.อาฟเตอร์ยู (AU) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมปี 62 เติบโต 15% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 880.73 ล้านบาท ตามการขยายสาขาร้านอาฟเตอร์ยูเพิ่มอีกจำนวน 10 สาขา จากปีก่อนที่มีสาขาอยู่ที่ 31 สาขา โดยต้นปีที่ผ่านมาได้มีการเปิดสาขาใหม่ไปแล้วจำนวน 4 สาขา ได้แก่ ห้างไอคอนสยาม , 1o1 the third place, ห้างเซ็นทรัลป่าตอง จ.ภูเก็ต และเดอะ มาร์เก็ต แบงคอก ซึ่งยังเหลืออีก 6 สาขา ที่จะขยายเพิ่มเติมในปีนี้
ขณะที่การขยายสาขาในต่างประเทศในรูปแบบแฟรนไชส์ หลังจากที่ได้มีการจัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ After You Hong Kong Limited ที่เขตบริหารพิเศษ ฮ่องกงแห่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อรองรับการดำเนินงานหรือการทำสัญญารองรับธุรกิจแฟรนไชส์ในหลายประเทศนอกราชอาณาจักรไทย ที่ผ่านมาได้มีการคัดเลือกลูกค้าแฟรนไชส์แล้ว ปัจจุบันก็อยู่ระหว่างรอลูกค้าตรวจสอบสัญญา คาดว่าจะเซ็นสัญญาทางธุรกิจร่วมกันได้ในเร็วๆนี้ และคาดว่าจะเห็นร้านอาฟเตอร์ยูสาขาแรกในประเทศฮ่องกงได้ภายในครึ่งปีหลังของปีนี้ ซึ่งเบื้องต้นคาดหวังจะมีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 6 สาขา และตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 4-5 ล้านบาท/เดือน โดยบริษัทจะรับรู้ส่วนแบ่งรายได้จากการขายเข้ามาตามสัญญาแฟรนไชส์
อย่างไรก็ตามนอกจากประเทศฮ่องกงแล้ว ปัจจุบันบริษัทก็อยู่ระหว่างเจรจากับคู่ค้าที่สนใจเป็นลูกค้าแฟรนไชส์หลายราย ทั้งในประเทศสิงค์โปร และยังมองโอกาสขยายธุรกิจไปยังมาเลเซีย และตะวันออกกลางเพิ่มอีกด้วย แต่ในปีนี้จะเน้นการขยายตลาดในประเทศฮ่องกงก่อน และหากเป็นไปได้ก็อยากเห็นสาขาอื่นในประเทศอื่นเพิ่มในปีนี้
"ปีนี้เราจะเน้นสาขาในประเทศฮ่องกง จากการคัดเลือกลูกค้าแฟรนไชส์ที่ดีที่สุดเข้ามา ซึ่งเราอยากเห็นสาขาแรกในช่วงไตรมาส 3/62 หรือไตรมาส 4/62 เนื่องจากเป็นช่วงที่ดีของฤดูกาล ซึ่งเราเชื่อว่าประเทศฮ่องกงจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และหากที่นี่สำเร็จเราก็พร้อมจะขยายไปยังประเทศอื่นๆต่อไป"นายแม่ทัพ กล่าว
นอกจากนี้ได้วางงบลงทุนในปีนี้ไว้ราว 100-200 ล้านบาท แบ่งเป็น งบที่ใช้ในการขยายสาขาใหม่จำนวน 70-80 ล้านบาท และขยายพื้นที่โรงงานของบริษัท และเพิ่มการผลิตในไลน์ขนมปัง รองรับการสต็อกสินค้าและการส่งออก จำนวนอีก 100 ล้านบาท ส่วนการร่วมมือกับพันธมิตรทางการค้าหลากหลายแบรนด์ที่ต้องการให้บริษัทเข้าไปซัพพอร์ตด้านขนมหวาน ยังมีการเติบโตต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในปีนี้ก็ยังมีแผนออกเพิ่มเติมอีกกว่า 10 ผลิตภัณฑ์ โดยในช่วงหน้าร้อนนี้จะมีขนมเกี่ยวกับผลไม้ออกมา อย่างไรก็ตามปีที่ผ่านมาบริษัทมีการออกผลิตภัณฑ์ ภายใต้ชื่อ ขนมปังเนยโสด และขนมปังนมโสด ซึ่งถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีมาก โดยในปีนี้ก็ยังมองการขายในรูปแบบซื้อกลับบ้านอย่างต่อเนื่อง
ด้านภาพการแข่งขันในอุตสาหกรรมในปี 62 ยังมีการแข่งขันค่อนข้างสูงอยู่ แต่บริษัทมีความมั่นใจในคุณภาพของสินค้า ความแปลกใหม่และสิ่งสำคัญ คือ การบริการที่มีดี