บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศ (national rating) ระยะยาวที่ ‘AAA(tha)’ แก่หุ้นกู้จำนวน 4 พันล้านบาทที่ออกโดยบริษัทซิกโก้ นิติบุคคลเฉพาะกิจ 1 หรือซิกโก้ เอสพีวี 1 ขณะเดียวกัน ฟิทช์ประกาศเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบแก่หุ้นกู้จำนวน 3 พันล้านบาทที่ออกโดยบริษัทซิกโก้ นิติบุคคลเฉพาะกิจ 2 หรือซิกโก้ เอสพีวี 2
อันดับเครดิตของฟิทช์แสดงถึงความสามารถในการชำระดอกเบี้ยตามกำหนดและชำระคืนเงินต้นได้ครบภายในวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้วันสุดท้าย (legal final maturity) โดยอันดับเครดิตดังกล่าวไม่ได้สะท้อนถึงโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์ทยอยชำระคืนเงินต้นก่อนครบกำหนด (early amortisation)
การคงอันดับเครดิตของหุ้นกู้ที่ออกโดยซิกโก้ เอสพีวี 1 แสดงถึงการคาดการณ์ของฟิทช์ว่าหุ้นกู้ชุดนี้จะคงระดับส่วนสนับสนุนอันดับเครดิตให้อยู่ในระดับที่สอดคล้องกับอันดับเครดิตในปัจจุบันของหุ้นกู้ได้ แม้ว่าคุณภาพของสินทรัพย์ที่เป็นหลักประกันจะอ่อนแอลงอย่างรวดเร็ว แต่อัตราการผิดนัดชำระหนี้สะสม (cumulative default) นับตั้งแต่หุ้นกู้เข้าสู่ช่วงการทยอยชำระคืนเงินต้นหุ้นกู้ (controlled amortisation period) เมื่อเดือนธันวาคม 2549 ยังต่ำกว่าระดับที่ฟิทช์ใช้เป็นสมมติฐานพื้นฐาน ทั้งนี้สินทรัพย์ที่เป็นหลักประกันของหุ้นกู้ที่ออกภายใต้โครงการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ของซิกโก้ เอสพีวี 1 เป็นลูกหนี้เช่าซื้อรถยนต์ใหม่ในกรุงเทพฯเท่านั้น
การประกาศเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบแก่หุ้นกู้ที่ออกโดยซิกโก้ เอสพีวี 2 สะท้อนถึงคุณภาพที่อ่อนแอลงอย่างรวดเร็วของสินทรัพย์ภายใต้โครงการ ซึ่งถ้ายังคงดำเนินไปในลักษณะเช่นนี้ อาจส่งผลต่อส่วนสนับสนุนอันดับเครดิตที่ระดับ ‘AAA(tha)’ ของหุ้นกู้ชุดนี้ แม้ว่าช่วงเวลาที่ผ่านมา ซิกโก้ เอสพีวี 2 จะยังสามารถรักษาระดับส่วนสนับสนุนอันดับเครดิตไว้ ณ ระดับที่ให้เมื่อวัน closing แต่แนวโน้มที่เพิ่มสูงขึ้นของอัตราการผิดนัดชำระหนี้ (delinquency and default ratios) ทำให้หุ้นกู้ชุดนี้มีความเสี่ยงมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณภาพการชำระหนี้ที่ลดลงของลูกหนี้เช่าซื้อรถยนต์ประเภทรถกระบะและรถบรรทุก ซึ่งมีสัดส่วนอยู่ร้อยละ 47 และ 14 ของสินทรัพย์ที่เป็นหลักประกัน ตามลำดับ ณ สิ้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
นอกจากนี้ สินทรัพย์ที่เป็นหลักประกันภายใต้โครงการนี้ ส่วนใหญ่เป็นลูกหนี้เช่าซื้อรถยนต์ใหม่ในต่างจังหวัด ซึ่งมีแนวโน้มที่อัตราการผิดนัดชำระหนี้จะอ่อนไหวต่อสภาพเศรษฐกิจที่อ่อนตัวลงมากกว่าลูกหนี้ในกรุงเทพฯ
ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา สินทรัพย์ที่เป็นหลักประกันของหุ้นกู้ภายใต้โครงการทั้งสองมีอัตราการผิดนัดชำระหนี้ที่สูงขึ้นมาก เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนตัวลง ประกอบกับข้อจำกัดบางประการของบริษัทในระบบการปล่อยสินเชื่อและการเรียกเก็บหนี้ ลูกหนี้เช่าซื้อรถยนต์ทุกประเภทมีผลการดำเนินที่แย่ลง โดยรถบรรทุกมีอัตราการผิดนัดชำระหนี้สูงที่สุด จากการที่อัตราการผิดนัดชำระหนี้เพิ่มสูงขึ้น ซิกโก้มีแผนปรับปรุงนโยบายการเรียกเก็บหนี้ให้รัดกุมยิ่งขึ้น โดยจะทำการจ้างผู้เรียกเก็บหนี้จากภายนอก (outsourced collecters) เพิ่มขึ้น เพื่อดูแลลูกค้าที่เพิ่งเริ่มผิดนัดชำระหนี้ และขณะเดียวกันก็จะปรับเพิ่มพนักงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บเงินให้มากขึ้น ซิกโก้คาดว่าจะดำเนินงานตามแผนนี้ได้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป
สำหรับหุ้นกู้จำนวน 3 พันล้านบาทที่ออกโดยบริษัทซิกโก้ นิติบุคคลเฉพาะกิจ 3 หรือซิกโก้ เอสพีวี 3 เมื่อเดือนเมษายน 2550 ที่ผ่านมานั้น อัตราการผิดนัดชำระหนี้สะสมยังคงต่ำกว่าระดับที่ฟิทช์ใช้เป็นสมมติฐานพื้นฐาน อย่างไรก็ตามเนื่องจากระยะเวลาที่ค่อนข้างสั้นนับจากวัน closing ทำให้ฟิทช์ยังต้องติดตามหุ้นกู้ตัวนี้ต่อไป
โครงการออกหุ้นกู้ทั้งสองโครงการนี้ เป็นโครงการการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ประเภทเช่าซื้อรถยนต์สองโครงการแรกของซิกโก้ ซิกโก้ยังคงทำหน้าที่เป็นเป็นผู้เรียกเก็บหนี้ โดยมีธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ทำหน้าที่ตัวแทนสำรองการเรียกเก็บหนี้
--อินโฟเควสท์ โดย อภิญญา วุฒิเมธากุล/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--