นายวิโรจน์ เจริญตรา กรรมการผู้จัดการ บมจ.พรีบิลท์ (PREB) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปี 61 ที่รายได้รวม 3,921.37 ล้านบาท โดยในปีนี้บริษัทจะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะเข้ามาในช่วงไตรมาส 4/62 จากการทยอยส่งมอบโครงการร่วมทุน ซึ่งสัดส่วนของกำไรสุทธิในปีนี้จะมาจากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายประมาณ 20% และมาจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างประมาณ 80% จากปีก่อนที่มีสัดส่วนกำไรสุทธิหลักมาจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง
ในด้านรายได้ สัดส่วนที่มาจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างเป็นหลัก หรือประมาณ 98% ที่เหลือจะมาจากธุรกิจอื่นๆ ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) จากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง มูลค่ารวมประมาณ 8,000 ล้านบาท มีกำหนดทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 4,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ถึงปี 64 ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าในมือประมาณ 22-23 ราย
นอกจากนี้ บริษัทยัง​อยู่ระหว่างเข้าประมูลงานใหม่ประมาณ 5 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรู้ผลการประมูลตั้งแต่ไตรมาส 2/62 เป็นต้นไป ซึ่งบริษัทคาดหวังจะได้รับงานใหม่ประมาณ 2,000 ล้านบาทในปีนี้เพื่อรักษาระดับ backlog ในแต่ละปีให้อยู่ที่ 8,000-10,000 ล้านบาท ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีความสามารถในการรับงานขนาด 800-1,000 ล้านบาทต่อโครงการ
สำหรับธุรกิจพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ในปี 62 จะมีการส่งมอบโครงการ Quinto มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนระดับพรีเมี่ยม ทำเลใกล้สถานีรถไฟฟ้าเสนานิคม โดยจะเริ่มส่งมอบตั้งแต่ไตรมาส 4/62 เป็นต้นไป ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวปัจจุบันมียอดขายแล้วมากกว่า 90% และบริษัท พรีบิลท์ โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ PREB ถือหุ้นอยู่ 49%
ส่วนแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 62 บริษัทเตรียมเปิดขายโครงการใหม่ จำนวน 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 4,200 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการคอนโดมิเนียมแบบโลว์ไรส์ (Low rise) ในทำเลสุขุมวิท 26 มูลค่าโครงการประมาณ 700 ล้านบาท จะเปิดขายในช่วงปลายเดือน เม.ย. พร้อมตั้งเป้ายอดขายครั้งแรกที่ประมาณ 30-40% โครงการคอนโดมิเนียมแบบไฮไรส์ (High Rise) สูง 40 ชั้น ทำเลสุขุมวิท 24 มูลค่าโครงการประมาณ 2,500 ล้านบาท จะเปิดขายในช่วงปลายปี 62 และ โครงการบ้านเดี่ยว ในทำเลบางแวก มูลค่าโครงการประมาณ 1,000 ล้านบาท จะเปิดขายในช่วงปลายปี 62 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง
นายวิโรจน์ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ราว 1,000 ล้านบาท เพื่อใช้ซื้อที่ดินในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต ซึ่งบริษัทมีความสนใจที่ดินบริเวณถนนสุขุมวิท บางนา-ตราด และเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยล่าสุดได้ลงทุนร่วมกับบริษัทพันธมิตรซื้อที่ดินเพิ่มบริเวณ ทาวน์ อิน ทาวน์ ถนนรามคำแหง ขนาด 2-2-28.0 ไร่ เพื่อพัฒนาโครงการอาคารชุดสูง 8 ชั้น 2 อาคาร ประมาณ 344 ยูนิต มูลค่าโครงการ 750 ล้านบาท ตั้งเป้าเปิดขายให้เร็วที่สุดให้ได้ภายในปลายปีนี้ โดยจะเริ่มก่อสร้างปี 63 และเริ่มโอนกรรมสิทธิ์และรับรู้รายได้ประมาณปี 64