นายชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ (ANAN) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ายอดขายไตรมาส 1/62 จะเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 4,000 ล้านบาท หลังจากช่วง 2 เดือนแรก (ม.ค.-ก.พ.62) ทำยอดขายได้แล้วกว่า 4,000 ล้านบาท โดยมาจากการขายโครงการเดิมที่มีอยู่ในมือเป็นหลัก ซึ่งถือว่ามีการตอบรับที่ดีจากลูกค้าอย่างมาก ขณะเดียวกันก็อยู่ระหว่างรอดูเดือนมี.ค.นี้ว่าจะทำยอดขายได้ในระดับใด อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับยอดขายในไตรมาส 1/61 น่าจะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน หากไม่นับรวมโครงการเปิดใหม่ 2 โครงการในปีที่แล้ว
ขณะที่มาตราการควบคุมสินเชื่อ (LTV) ที่จะบังคับใช้ในเดือน เม.ย.นี้ ที่ผ่านมาไม่ได้ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อการขายโครงการของบริษัทฯ เนื่องจากลูกค้าทั่วไปที่เข้ามาซื้อโครงการไม่ทราบข้อมูลดังกล่าว ซึ่งต้องรอดูว่าในเดือน เม.ย.62 เป็นต้นไปจะส่งผลกระทบอย่างไร
ทั้งนี้ ในปี 62 บริษัทยังคงเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 36,000 ล้านบาท เติบโต 14% จากปีก่อน แบ่งเป็น ยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียม 89% และโครงการแนวราบ 11% โดยจะมาจากยอดขายกลุ่มลูกค้าต่างชาติประมาณ 10,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นประมาณ 20-30% ของยอดขายรวม
บริษัทยังมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่รวม 10 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 38,000 ล้านบาท แบ่งเป็น คอนโดมิเนียม จำนวน 8 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 35,260 ล้านบาท เป็นโครงการที่พัฒนาร่วมกับบริษัท มิตซุย ฟูโดะซัน เอเชีย (ไทยแลนด์) จำกัด (MFAT) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มของบริษัท มิตซุย ฟูโดซัง จำกัด จำนวน 7 โครงการ และเป็นโครงการที่ ANAN พัฒนาเองจำนวน 1 โครงการ ส่วนอีก 2 โครงการ เป็นโครงการแนวราบ มูลค่าโครงการรวม 2,740 ล้านบาท
ขณะที่คาดว่ายอดโอนกรรมสิทธิ์ในปี 62 จะอยู่ที่ 36,000 ล้านบาท เติบโต 9% จากปีก่อน แบ่งเป็น คอนโดมิเนียม 90% และแนวราบ 10% โดยสิ้นปีก่อนบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) อยู่ที่ 41,000 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วง 3 ปี แบ่งเป็นในปี 62 จะทยอยรับรู้รายได้จำนวน 21,284 ล้านบาท คิดเป็น 59% ของเป้าหมายยอดโอนกรรมสิทธิ์, ในปี 63 จะทยอยรับรู้รายได้จำนวน 13,148 ล้านบาท และในปี 64 จะทยอยรับรู้รายได้จำนวน 6,630 ล้านบาท
นายชัยยุทธ กล่าวอีกว่า ในปี 62 จะมีโครงการคอนโดมิเนียมทยอยสร้างเสร็จใหม่ 10 โครงการ แบ่งเป็นโครงการร่วมทุน จำนวน 6 โครงการ จะบันทึกเป็นส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนตามสัดส่วนการถือหุ้น และเป็นโครงการที่บริษัทพัฒนาเอง จำนวน 4 โครงการ ประกอบด้วย โครงการ ไอดีโอ พระราม 9–อโศก มูลค่าโครงการ 3,002 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 72% มีกำหนดสร้างเสร็จในไตรมาส 1/62
และในไตรมาส 2/62 จะมีโครงการคอนโดมิเนียมเสร็จใหม่ จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการ เอลลิโอ เดล มอสส์ พหลโยธิน 34 มูลค่าโครงการ 3,441 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 44%, โครงการ ยูนิโอ เอช ติวานนท์ มูลค่าโครงการ 789 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 39% และโครงการ ยูนิโอ สุขุมวิท 72 เฟส 2 มูลค่าโครงการ 1,810 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 59%
ขณะที่ไตรมาส 3/62 จะมีโครงการคอนโดมิเนียมเสร็จใหม่ จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ ไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท 40 มูลค่าโครงการ 2,075 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 45% และโครงการใหม่ในทำเลสุขุมวิท 31
ส่วนไตรมาส 4/62 จะมีโครงการคอนโดมิเนียมเสร็จใหม่ จำนวน 4 โครงการ ประกอบด้วย โครงการ เอลลิโอ เดล เนสต์ มูลค่าโครงการ 5,111 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 45%, โครงการ ไอดีโอ คิว วิคตอรี่ มูลค่าโครงการ 4,319 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 55%, โครงการ ไอดีโอ โมบิ รางน้ำ มูลค่าโครงการ 2,391 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 39% และโครงการ ไอดีโอ โมบิ สาทร มูลค่าโครงการ 2,577 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 58%
สำหรับธุรกิจที่ให้รายได้ประจำ บริษัทตั้งเป้าจะเติบโตแตะ 1,800 ล้านบาทในปี 65 จากการเปิดให้บริการโครงการเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ ซึ่งจะทยอยเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 63 เป็นต้นไป ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างก่อสร้างโครงการเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ จำนวน 5 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 12,000 ล้านบาท และในปี 62 บริษัทมีแผนลงทุนก่อสร้างโครงการเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ ณ ชายหาดพัทยากลาง บนที่ดินขนาด 4 ไร่ จำนวน 324 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 2,000 ล้านบาท
ด้านการลงทุนในบมจ.ดุสิตธานี (DTC) ในสัดส่วน 5% เพื่อการลงทุนระยะยาว และเป็นโอกาสที่บริษัทจะสามารถสร้างความร่วมมือกับกลุ่มดุสิตธานีในการต่อยอดการลงทุนอื่นๆ คาดว่าจะสามารถเปิดเผยรายละเอียดร่วมกับกลุ่มดุสิตธานีได้ในเร็วๆ นี้