สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า หน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ เห็นพ้องแนวทางการพัฒนาตลาดทุนอย่างยั่งยืน มีทิศทางชัดเจนในการยกระดับระบบนิเวศตลาดทุน พร้อมทั้งริเริ่มให้มีเครือข่ายการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างประเทศสมาชิก รองรับการเติบโตของสินทรัพย์ดิจิทัลในยุคปัจจุบัน
ในการประชุม (ASEAN Capital Markets Forum: ACMF) ครั้งที่ 30 เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา หน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนอาเซียนได้รับรองการจัดทำแนวทางในการดำเนินการพัฒนาตลาดทุนอย่างยั่งยืน เพื่อให้มีทิศทางที่ชัดเจนในการยกระดับ "ระบบนิเวศของตลาดทุน" เพื่อผลักดันและส่งเสริมให้ตลาดทุนอาเซียนเป็นหนึ่งในกลไกหลักของการพัฒนาอย่างยั่งยืนตลอดจนเป็นที่ยอมรับของนักลงทุนทั่วโลก สอดคล้องกับแนวคิดหลัก "ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน" โดยแผนงานจะมีการนำเสนอต่อที่ประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียนในเดือนเมษายนนี้ ที่จังหวัดเชียงราย
ก.ล.ต. ไทยในฐานะประธานคณะทำงานด้านการเคลื่อนย้ายบุคลากรในตลาดทุนร่วมกับหน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนจากมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจเพื่ออำนวยความสะดวกในการเผยแพร่บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ข้ามพรมแดนในอาเซียน เพื่อให้เกิดการไหลของข้อมูลผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนอาเซียนและสนับสนุนให้ผู้ลงทุนมีช่องทางเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น ซึ่งต่อยอดจากโครงการ "ACMF Pass" ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายบุคลากรด้านที่ปรึกษาด้านการลงทุนและนักวิเคราะห์ข้ามพรมแดน โดยมีผลบังคับใช้เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
ACMF ยังได้ลงนามบันทึกความเข้าใจหลักการและขอบเขตการเปิดเผยข้อมูลในการเสนอขายหลักทรัพย์ ระหว่างมาเลเซีย สิงค์โปร์ และไทย เพื่อให้ครอบคลุมการเสนอขายตราสารหนี้แบบโครงการ (Debt Issuance Programme หรือ Medium Term Note Programme (MTN)) เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและลดต้นทุนให้กับภาคเอกชน โดยเปิดโอกาสให้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลเสนอขายหลักทรัพย์แบบ MTN และสามารถทยอยออกตราสารหนี้รายฉบับภายใต้ระยะเวลาและวงเงินที่ได้รับอนุมัติ
นอกจากนี้ ACMF ยังได้ริเริ่มให้มีเครือข่ายการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างประเทศสมาชิกโดยมีเป้าหมายเพื่อติดตามพัฒนาการของสินทรัพย์ดิจิทัล รวมทั้งกรณีความผิดต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ในการกำกับดูแล ติดตามความเสี่ยง และเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจของผู้ลงทุนออกสู่สาธารณะ