นายธนวงษ์ อารีรัชชกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจแพคเกจจิ้ง บมจ.เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCG) บริษัทในเครือบมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้จะเติบโต 5-7% จากปีก่อน เป็นไปตามการเติบโตของความต้องการใช้แพคเกจจิ้งทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มอาเซียน ซึ่งมองว่าตลาดอาเซียนยังมีการเติบโตสอดคล้องกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของประเทศนั้นๆ เช่น ในอินโดนีเซียคาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตประมาณ 5%, เวียดนามเติบโต 6% และไทยเติบโต 3.8% เป็นต้น โดยบริษัทตั้งเป้าการเติบโตให้เท่ากับอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ในแต่ละประเทศ หรือในบางประเทศก็อาจทำได้ดีกว่านั้น
ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศอยู่ที่ 38% และในประเทศอยู่ที่ 62% โดยมีกำลังการผลิตในประเทศอาเซียนสูงถึง 2.5 ล้านตัน, ในไทย 1.8 ล้านตัน, ในเวียดนาม 5 แสนตัน และฟิลิปปินส์ 2 แสนตัน ซึ่งในแต่ละประเทศดังกล่าวบริษัทมีมาร์เก็ตแชร์เป็นอันดับ 1
ทั้งนี้ บริษัทยังมุ่งเน้นกลยุทธ์การเติบโตทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยในประเทศไทยจะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง, การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น, เลือกดีไซน์บรรจุภัณฑ์ตอบสนองความต้องการลูกค้า ทั้งการร่วมมือกับทางสถาบันการศึกษาในการจัดกิจกรรมออกแบบบรรจุภัณฑ์ เพื่อให้เกิดการดีไซน์นอกระบบ, ซัพพอร์ตคู่ค้าที่จะขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ ทั้งการส่งออกสินค้าหรือพิจารณาเข้าไปตั้งโรงงานเพื่อรองรับ หากมีการเติบโตสูง, พัฒนาบรรจุภัณฑ์ เพื่อตอบโจทย์เทรนด์ในยุคปัจจุบัน และอนาคต โดยเฉพาะในเรื่องของการใช้ซ้ำ และเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคในการซื้ออาหารผ่านร้านอาหารจานด่วน
ส่วนภายนอกประเทศ บริษัทฯ มองโอกาสการพัฒนาบรรจุภัณฑ์เพื่อรองรับอุตสาหกรรมที่ย้ายฐานการผลิตเข้ามาในไทย หรือเวียดนาม หลังได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน
นอกจากนี้ บริษัทยังตั้งงบลงทุนปีนี้ไว้ที่ 7,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ประมาณ 5,000 ล้านบาท จะใช้ขยายกำลังการผลิตในฟิลิปปินส์ เป็น 2.3 แสนตัน จากปัจจุบันอยู่ที่ 2 แสนตัน และอีก 2,000 ล้านบาทจะใช้ในการปรับปรุงเครื่องจักร และขยายไลน์การผลิตในประเทศเวียดนาม
พร้อมกันนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรในต่างประเทศหลายรายในธุรกิจบรรจุภัณฑ์เพื่อเข้าซื้อกิจการ (M&A) และร่วมลงทุน (JV) เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต และสร้างการเติบโตของยอดขาย คาดว่าปีนี้ก็น่าจะเห็นความชัดเจนได้
"ทิศทางการเติบโตใน Regional นี้ก็ยังคงเป็นเป้าหมาย และจะเติบโตทั้ง 2 รูปแบบ ทั้งภายในและภายนอก จากการลงทุนด้านเทคโนโลยีต่อเนื่อง การตอบสนองผลิตภัณฑ์ต่างๆให้กับลูกค้า หรือจะทำอย่างไรในการเข้าไปนั่งในใจของลูกค้า เพื่อให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ ขณะที่ในเรื่องของการขับเคลื่อนการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ Circular Economy ก็ถือว่าเป็นธีมของเอสซีจี เราก็มองว่าเป็นทั้งความท้าทายและโอกาสในการเติบโตในอนาคต"นายธนวงษ์ กล่าว