บทวิเคราะห์ บล.พัฒนสิน ประเมินว่า หลังกรมการค้าภายในอนุมัติให้ผู้ประกอบการน้ำมันปาล์มบรรจุขวดขึ้นราคาอีกลิตร (ขวด)ละ 4 บาท หรือจากขวดละ 43.50 บาท เป็น 47.50 บาท จะส่งผลบวกต่อผู้ขายน้ำมันปาล์มขวด อย่าง บมจ.ล่ำสูง (ประเทศไทย) (LST) และ บมจ.ชุมพรอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม (CPI)
ด้าน บล.โกลเบล็ก ระบุ จากการอนุมัติขึ้นราคาน้ำมันปาล์มครั้งนี้ทำให้คลายความกังวลเรื่องต้นทุนวัตถุดิบของ LST ไปได้ในระยะสั้น ดังนั้นกลยุทธ์วันนี้จึงแนะนำซื้อ LST เป้าปี 51 ที่ 2.60 บาท
อย่างไรก็ตาม ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2008 เนื่องจากในระยะยาวราคาน้ำมันปาล์มดิบยังมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องแต่ยังไม่สามารถปรับราคาขายน้ำมันปาล์มบรรจุขวดตามราคาต้นทุนได้อย่างเสรี
ขณะที่ บล.นครหลวงไทย เชื่อว่าหลังกรมการค้าภายในอนุมัติปรับขึ้นราคาน้ำมันปาล์มรอบที่ 2 เป็น 47.50 บาท คาดว่าจะมีการปรับขึ้นราคาน้ำมันถั่วเหลืองเช่นเดียวกัน เนื่องจากประสบภาวะต้นทุนการผลิตที่ได้ปรับสูงขึ้นถึง 72% yoy ซึ่งฝ่ายวิจัยมีมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันพืชทั้ง 2 กลุ่ม จากการอนุมัติปรับขึ้นราคาซึ่งจะมีผลให้สามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นเอาไว้ได้ โดยจะส่งผลบวกต่อผู้ผลิตน้ำมันพืช เช่น TVO UPOIC UVAN LST CPI ในปี 2551 มีมุมมองเชิงบวกต่อ TVO แนะนำ “ซื้อ" ราคาเหมาะสมปี 2551 19.37 บาท/หุ้น
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 11.00 น.
หุ้น LST อยู่ที่ 2.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.12 บาท (+4.84%)
หุ้น TVO อยู่ที่ 15.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท (+0.66%)
--อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--