ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,639.13 จุด เพิ่มขึ้น 5.13 จุด (+0.31%) มูลค่าการซื้อขาย 17,467.74 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,640.82 จุด และทำ ระดับต่ำสุดที่ระดับ 1,633.67 จุด
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นได้เล็กน้อย วอลุ่มเทรดบางเนื่องจากต่างรอดูผลการเลือกตั้งสุดสัปดาห์นี้ก่อน ทั้งนี้ นักลงทุนได้ลดความเสี่ยงไปมากแล้ว และคงจะไม่รีบเพิ่มพอร์ตลงทุน ซึ่งคาดว่าจะกลับเข้ามาเพิ่มพอร์ตลงทุนก็คงจะเป็นหลังการเลือกตั้ง โดยต่างรอดูว่าหลังการเลือกตั้ง คะแนนเสียงจะเป็นอย่างไร ซึ่งถ้าจัดตั้งรัฐบาลผสมด้วยคะแนนเสียงที่เกิน 250 เสียง หรือได้ถึง 376 เสียง ก็ไม่ต้องพึ่งส.ว.ในการกำหนดนายกรัฐมนตรี ตลาดฯก็จะปรับตัวขึ้นไปได้เลย แต่ถ้าคะแนนเสียงลงมาต่ำกว่า 376 เสียง ก็ต้องดูว่าแกนนำเป็นฝั่งไหน ถ้าเป็นรัฐบาลชุดเก่าก็จะได้แรงหนุนจากส.ว.ได้ง่ายกว่า
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวในแดนลบเล็กน้อยเป็นส่วนใหญ่ราว 0.3-0.4% โดยยังไม่มีนัยยะ แต่ยังต้องติดตามเรื่องการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ต่อในสัปดาห์หน้า แม้ว่าทางผู้นำสหภาพยุโรป (EU) ยอมที่จะขยายระเวลา Brexit ออกไปอีก 2 สัปดาห์ ไปเป็น 12 เม.ย.
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งแคบ วอลุ่มเทรดคงยังบาง หลายคนก็ได้ลดความเสี่ยงไปมากแล้ว และคงจะยังไม่รีบกลับเข้ามา พร้อมให้แนวรับ 1,623 จุด ส่วนแนวต้าน 1,640 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,346.20 ล้านบาท ปิดที่ 126.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 778.11 ล้านบาท ปิดที่ 68.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 759.13 ล้านบาท ปิดที่ 48.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 602.02 ล้านบาท ปิดที่ 132.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 540.28 ล้านบาท ปิดที่ 68.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท