นายรักพงศ์ อรุณวัฒนา ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไปฝ่ายบัญชี บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) เปิดเผยว่า ในปี 62 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้รวมเติบโต 5% จากปีก่อนที่มีรายได้กว่า 6 หมื่นล้านบาท กลยุทธ์ในการทำการตลาดในปีนี้จะให้ความสำคัญกับคู่ค้าทางธุรกิจมากขึ้น
ปัจจุบันบริษัทมีคู่ค้ามากกว่า 1,000 ราย จะมีการวางแผนทำธุรกิจร่วมกันในการพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ขั้นตอนแรก โดยเฉพาะสินค้าแนวรักษ์โลกที่ช่วยประหยัดพลังงานน้ำ ไฟฟ้า ลดก๊าซเรือนกระจก ไม่ตัดต้นไม้ใหญ่ หรือเป็นการใช้ไม้จากป่าปลูก เป็นต้น ขณะเดียวกันยังรวมกับพันธมิตรในการจัดสินค้าเพื่อลดต้นทุนทางด้านการขนส่ง โดยใช้งบการลงทุน 2 พันล้านบาทในการสร้างหุ่นยนต์มาพัฒนาทางด้านโลจิสติกส์
นอกจากนี้ บริษัทยังคงเน้นกลุ่มลูกค้าบ้านเก่าเป็นหลัก เพราะตลาดบ้านเก่าในไทยมีจำนวนมากว่า 23 ล้านหลัง ขณะที่บ้านใหม่มีจำนวนไม่มากเพียง 2 แสนหลัง/ปี ซึ่งการมุ่งเน้นตลาดลูกค้าบ้านเก่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่มีความผันผวนและมียอดขายลดลงย และช่วงที่ผ่านมาเจ้าของบ้านเก่ามักจะประสบปัญหาในการหาช่างที่มีคุณภาพในการเข้ามาซ่อมแซม บริษัทจึงได้ร่วมฝึกอบรมช่างให้มีฝีมือ ซึ่งมีทีมช่างกว่า 1,000 ทีม พร้อมเน้นการขายผ่าน Omni Chanel ที่ให้บริการหลากหลายรูปแบบ ผ่านทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์
ส่วนฐานลูกค้าของบริษัทในปัจจุบันอยู่ที่ 3.8 ล้านราย โดยยอดขายมาจากสมาชิกสัดส่วน 90% ซึ่งจะซื้อสินค้าเฉลี่ย 2 ครั้ง/เดือน โดยสมาชิกมีการซื้อสินค้าเฉลี่ยอยู่ที่ 3,000 บาท/ครั้ง ส่วนผู้ซื้อทั่วไปมีการซื้อสินค้าลี่ยอยู่ที่ 2,500 บาท/ครั้ง ซึ่งเพิ่มขึ้นและลดลงตามสภาวะเศรษฐกิจ และบริษัทจะยังรักษาส่วนแบ่งตลาดที่ 20% จากมูลค่าตลาดรวมธุรกิจศูนย์วัสดุก่อสร้างและตกแต่งกว่า 3 แสนล้านบาท ซึ่งมองว่าภาพรวมของอุตสาหกรรมในปีนี้มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง จากความต้องการในการจับจ่ายใช้สอยในการตกแต่งและซ่อมแซมบ้านที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง
สำหรับแผนการเปิดสาขาใหม่ในปี 62 วางแผนเปิด 6-7 แห่ง มากกว่าปีก่อนที่เปิดไป 1 แห่ง โดยสาขาที่จะเปิดในปีนี้แบ่งเป็น กรุงเทพฯ 3 แห่ง ได้แก่ สาขาจรัญสนิทวงศ์ 13 และสาขาของ HomePro S ในโครงการสามย่านมิตรทาวน์ และอ่อนนุช และโครงการพีเพิ้ล พาร์ค ส่วนในต่างจังหวัดจะเปิด 4 สาขา ได้แก่ จังหวัดมุกดาหาร, อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง, จังหวัดสมุทรปราการ และอยู่ระหว่างพิจารณาอีก 1 สาขาในต่างจังหวัด
อีกทั้งยังมีการรีโนเวตสาขาที่เปิดให้บริการแล้วอย่างต่อเนื่อง เช่น สาขาเอกมัย รามอินทรา พระราม 2 ราชพฤกษ์ และเมกาบางนา โดยปัจจุบันบริษัทมีสาขาที่เปิดให้บริการทั้งหมด 108 สาขา ซึ่งรวมสาขาในมาเลเซีย 6 สาขา โดยสาขาทั้งหมดอยู่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล จำนวน 28 สาขา
นายรักพงศ์ กล่าวถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/62 คาดว่าจะมีแนวโน้มที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาส 4/61 เนื่องจากความมั่นใจของผู้บริโภคเริ่มกลับมาเพิ่มขึ้น และทำให้มีการจับจ่ายใช้สอยต่างๆกลับมาฟื้นตัวขึ้น ส่งผลให้ยอดขายของสาขาเดิม (SSSG) กลับมาเป็นบวกในไตรมาส 1/62 และกลุ่มลูกค้าที่มีบ้านอยู่แล้วหรือกลุ่มลูกค้าบ้านเก่า ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักที่มีสัดส่วน 80% ยังคงมีการจับจ่ายใช้สอยการรีโนเวทและตกแต่งบ้านอย่างต่อเนื่อง
อีกทั้งในช่วงเดือน มี.ค.นี้ บริษัทฯ มีการจัดงาน HomePro Expo ครั้งที่ 29 ระหว่างวันที่ 15-24 มี.ค.62 ที่ IMPACT เมืองทองธานี ซึ่งหลังจากที่ได้เริ่มงานมาแล้วพบว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีที่เข้ามาชมงานและจับจ่ายใช้สอยในงาน ซึ่งบริษัทคาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายจากการจัดงานดังกล่าวได้ราว 600 ล้านบาท เป็นปัจจัยที่หนุนผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/62 ให้เติบโตขึ้น