นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อาร์เอส (RS) เปิดเผยว่า หุ้น RS จะย้ายเข้าเทรดในหมวดธุรกิจพาณิชย์และค้าปลีกอย่างสมบูรณ์แบบในวันที่ 29 มี.ค.นี้ หลังจากบริษัทเดินแผนธุรกิจสร้างการเติบโตอย่างชัดเจนทั้งแนวราบและแนวตั้ง ซึ่งบริษัทได้ปรับรายได้ประมาณการรวมเป็น 5,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 30% จากปีก่อน และคาดว่ารายได้ธุรกิจพาณิชย์หลายช่องทาง (MPC) จะมีมูลค่า 3,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% จากปี 61 พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายว่าจะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาทภายใน 3 ปี
บริษัทมีปัจจัยสนับสนุนจาก 1.รายได้ของธุรกิจ MPC ที่ทำสถิติสูงสุดใหม่จากการขยายช่องทางขายการขยายแพลตฟอร์มการจำหน่ายสินค้าที่เข้าถึงผู้บริโภคมากที่สุดในขณะนี้เป็นแพลตฟอร์มทีวี อาทิ ช่อง 8, ช่องไทยรัฐทีวี T Shopping, ช่อง 2, ช่องสบายดีทีวี, ช่องเพลินทีวี และวิทยุคูลฟาเรนไฮต์ ซึ่งจะเข้าถึงผู้ชมมากกว่า 20 ล้านคน พร้อมด้วยแพลตฟอร์มสื่อออนไลน์ www.shop1781.com, LINE@shop1781, LINE@COOLanything รวมถึงผ่าน LifestarBIZ หรือตัวแทนขายตรง และห้างค้าปลีก Modern Trade และร้านค้าปลีกทั่วประเทศ
ทั้งนี้ จากการประเมินรายได้จากการร่วมธุรกิจกับไทยรัฐทีวีปี 62 อยู่ที่ 350 ล้านบาท และปี 63 อยู่ที่ 455 ล้านบาท
สำหรับการขยายธุรกิจทางแนวตั้ง RS มีแผนที่จะเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับผู้ผลิตวสินค้าประเภท Original Equipment Manufacturer (OEM) ในการรับจ้างผลิตสินค้าให้กับแบรนด์ต่างๆ ตามแบบที่ลูกค้ากำหนด และ Original Brand Manufacturer (OBM) การผลิตแบรนด์ของตัวเอง ซึ่งจะได้เห็นชัดเจนภายในไตรมาส 3/62 นี้
"ด้วยประสบการณ์วันนี้เราพร้อมก้าวขึ้นเป็นเจ้าของโรงงานผลิตสินค้าเพื่อสร้างสรรค์แบรนด์คุณภาพในกลุ่มสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง เชื่อว่าอาร์เอสจะสร้างอาณาจักรใหม่ที่ยิ่งใหญ่และมั่นคง เป็นผู้นำในธุรกิจพาณิชย์และค้าปลีกของประเทศไทย ทลายทุกข้อจำกัดที่ผู้เล่นรายอื่นยังไม่ได้ทำ มุ่งสู่ความสำเร็จสูงสุด โดยตั้งเป้าหมายว่าจะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาทภายใน 3 ปี เป็นเรื่องที่เป็นไปได้"นายสุรชัย กล่าว
สำหรับการเติบโตของธุรกิจ บริษัทจะรักษาอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 30% ตามการเติบโตของทุกธุรกิจที่มีอยู่ในปัจจุบัน ได้แก่ ธุรกิจ MPC, ธุรกิจสื่อ และธุรกิจเพลง ด้วยการมุ่งเน้นกลยุทธ์การดำเนินการทั้งแนวนอนและแนวตั้ง และการขยายธุรกิจไปในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศ CLMV ซึ่งจะร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อขยายการเติบโตดังกล่าว คาดว่าจะเห็นความคืบหน้าได้ภายในปี 63 เป็นต้นไป
ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีฐานข้อมูลลูกค้าอยู่ที่ 1.2 ล้านคน และตั้งเป้าสิ้นปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 1.8 ล้านคน และจะขยายตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่มีอยู่ 250 คน พร้อมตั้งเป้าเพิ่มผลิตภัณฑ์ในปีนี้เป็น 200 รายการ (SKU) จากที่มีอยู่ 120 SKU และเพิ่มจำนวน Telesales จากเดิมที่มีอยู่ 500 คน
บริษัทเตรียมย้ายไปยังอาคารสำนักงานแห่งใหม่ในช่วงกลางปีนี้ โดยมีสัญญาเช่า 3 ปี โดยค่าใช้จ่ายการย้ายอาคารมองว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานมากนัก เนื่องจากเป็นการทยอยจ่าย ทั้งนี้อาคารแห่งใหม่สามารถรองรับสตูดิโอ, ห้องออกอากาศ ,และทีม Telesales ได้ถึง 1,500 คน ส่วนอาคารเก่าจะหมดสัญญาเช่าภายในกลางปีนี้
ด้านแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/62 บริษัทคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นไปตามธุรกิจ MPC ที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ และการบริหารฐานข้อมูลลูกค้าดีขึ้น