SSP เจรจาเข้าลงทุนโรงไฟฟ้า 2-3 แห่งคาดชัดเจน Q2/62, ตั้งเป้ามีกำลังการผลิตไฟฟ้าครบ 400 MW ภายใน 3-5 ปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 27, 2019 14:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างและศึกษาเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานลม และโซลาฟาร์มทั้งในประเทศ และต่างประเทศเพิ่มเติม โดยในต่างประเทศบริษัทจะเน้นเข้าลงทุนในประเทศที่เคยลงทุนไปแล้ว เช่นเวียดนาม ญี่ปุ่น และมองโกเลีย ซึ่งใอยู่ระหว่างการเจรจาอยู่ 2-3 โครงการ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงไตรมาส 2/62 โดยโครงการที่ลงทุนจะมีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) ไม่ต่ำกว่า 12%

ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าภายใน 3-5 ปี (62-66) มีแผนจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าให้เพิ่มขึ้นเป็น 400 เมกะวัตต์ โดยปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาหลายโครงการ โดยในปี 63 จะมีกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 196.1 เมกะวัตต์ และในปี 64-65 จะมีโครงการที่จ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์เข้าระบบเพิ่มเป็น 232 เมกะวัตต์ โดยบริษัทจะเน้นการพัฒนาโครงการในต่างประเทศเป็นหลัก แต่อย่างไรก็ตามหากประเทศไทยมีแผนพัฒนาไฟฟ้าที่ชัดเจน และเริ่มเปิดให้พัฒนาโครงการอีกครั้งก็จะกลับมาให้ความสำคัญมากขึ้น

นายวรุตม์ กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 62 จะเติบโต 30-40% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,137.38 ล้านบาท มาจากการรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าที่จะสามารถขายไฟฟ้าเข้าระบบในเชิงพาณิชย์(COD)เพิ่มอีก 65.6 เมกะวัตต์ มาจากโครงการ โซลาฟาร์มประเทศมองโกเลียกำลังการผลิต 16 เมกะวัตต์ โครงการที่โซลาร์ฟาร์มประเทศเวียดนามกำลังผลิต 49.60 เมกะวัตต์ ส่งผลให้ ปี 62 กำลังการผลิตไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์เป็น 157.1 เมกะวัตต์ จากปีก่อน 90.4 เมกะวัตต์

นายวรุฒน์ กล่าวว่า คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้อนุมัติการย้ายหลักทรัพย์ของ SSP เข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันนี้ (27 มีนาคม 2562) เป็นวันแรกในกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร หมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค ถอเป็นการตอกย้ำถึงปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจมีความแข็งแกร่ง และมีคุณสมบัติครบถ้วนตลาดเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ

ทั้งนี้ คาดว่าหลังจากที่ SSP ย้ายเข้าเทรดใน SET จะช่วยลดข้อจำกัดในการเข้าลงทุนของนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ ช่วยเพิ่มสภาพคล่องในการซื้อขาย ราคาหุ้นมีเสถียรภาพมาก ส่งผลให้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) เพิ่มขึ้นในอนาคต ปัจจุบันมีนักลงทุนสถาบันถือหุ้นใน SSP สัดส่วนประมาณ 10%

ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างการจัดทำอันดับเรตติ้งองค์กร เพื่อเพิ่มความสามารถในการออกหุ้นกู้ โดยคาดจะได้เห็นอันดับเรตติ้งภายในช่วงครึ่งปีหลัง รวมถึงแผนการระดมทุนด้วยการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน หากมีความจำเป็นที่จะต้องระดมทุนเพื่อพัฒนาโครงการใหม่ในอนาคต โดยยืนยันว่าการเพิ่มทุนนั้นจะถือเป็นตัวเลือกสุดท้ายในการระดมทุน โดยปัจจุบันบริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) 2.3 เท่า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ