ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดพุ่งขึ้นในวันนี้ (29 ม.ค.) หลังจากที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนต่างคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกครั้งในสัปดาห์นี้ หลังจากที่สหรัฐได้เปิดเผยตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ที่ร่วงลง
เมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนธ.ค.ร่วงลง 4.7% สู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 13 ปี และยอดขายบ้านใหม่ตลอดปี 2550 ดิ่งลงหนักสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 26.4% เมื่อเทียบกับปี 2549
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาด CME (Chicago Mercantile Exchange) บ่งชี้ว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.50% หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายของธนาคารเป็นเวลา 2 วัน ซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นคืนนี้
สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีฮั่งเส็งพุ่งขึ้น 238.19 จุด หรือ 1% ปิดที่ 24,291.80 จุด หลังจากเคลื่อนไหวแตะระดับสูงสุดที่ 24,736.80 จุด แต่มีมูลค่าการซื้อขายเบาบางที่ 9.263 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง
"นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยลงอีก 0.25% และนั่นก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดมากนัก ความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และอาจจะส่งผลให้ไม่มีแรงซื้อส่งเข้ามาในตลาดมากนักจนกว่าจะถึงเทศกาลตรุษจีน" แพทริก ชัม นักยุทธศาสตร์จากคาร์ล ธอมสัน ซิเคียวริตี้ส์กล่าว
นายชัมกล่าวว่า นักลงทุนยังคงเฝ้ารอดูตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) และตัวเลขจ้างงานของสหรัฐ
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เป็นปัจจัยที่ทำให้ดัชนีพุ่งขึ้นในวันนี้ อันเป็นผลมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยลงอีก ซึ่งก็จะส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์ต่างๆในฮ่องกงปรับลดดอกเบี้ยตามไปด้วย เนื่องจากสกุลเงินของทั้งสองประเทศผูกติดกัน โดยหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ทะยานขึ้น 722.84 จุด หรือ 2.1% แตะที่ 34,652.77 จุด
ส่วนหุ้นกลุ่มบริษัทถ่านหินและพลังงานของจีนปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน อันเป็นผลมาจากเหตุพายุหิมะพัดถล่มครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปี
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วณิชชกร ควรพินิจ/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--