นายเอก สุวัฒนพิมพ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีลิค คอร์พ (SELIC) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการตั้งแต่ช่วงไตรมาส 1/62 จะเติบโตได้ค่อนข้างดี และมั่นใจว่าจะเริ่มเห็นกำไรสุทธิทันที หลังจากที่ทั้งปี 61 มีผลประกอบการขาดทุนสุทธิ 10.93 ล้านบาท เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการเข้าซื้อกิจการกลุ่ม PMC แต่ในปีนี้บริษัทจะไม่มีค่าใช้จ่ายมากเหมือนกับปีก่อน และบริษัทยังได้เน้นการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย ซึ่งจะผลักดันให้อัตรากำไรสุทธิทั้งปีนี้อยู่ในระดับที่ราว 5-6%
ด้านรายได้เชื่อมั่นว่าจะเป็นตามเป้าหมายที่วางไว้ระดับ 1,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 599.77 ล้านบาท เป็นผลมาจากการรับรู้รายได้จากการเข้าซื้อกิจการในกลุ่ม PMC ซึ่งประกอบด้วย บริษัท พีเอ็มซี เลเบิล แมททีเรีลส์ จำกัด (PMCT) และ บริษัท พีเอ็มซี เลเบิล แมททีเรีลส์ พีทีอี ลิมิเตด (PMCS) ซึ่งจะทำให้รับรู้ผลการดำเนินงานของกลุ่ม PMC เข้ามาตั้งแต่เดือน ม.ค.62
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าที่จะขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศที่ยังมีแนวโน้มการเติบโตอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นในกลุ่มประเทศ CLMV ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และเพิ่มส่วนแบ่งในประเทศเวียดนามให้มากขึ้น จากอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม รวมไปถึงอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นเป็น 50% จากปีก่อนที่ 40%
ส่วนงบลงทุนในปีนี้ บริษัทจะใช้ในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ โดยตั้งงบลงทุนไว้ที่ 1-3% ของยอดขาย ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่รองรับอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์อาหาร อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ และผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
อนึ่ง PMCT เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสติกเกอร์ในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยใช้กาว กระดาษ และฟิล์ม เป็นวัตถุดิบหลัก ขณะที่ PMCS เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสติกเกอร์ในประเทศในสิงคโปร์และต่างประเทศ โดยจะทำการสั่งซื้อสติกเกอร์สำเร็จรูปหรือกึ่งสำเร็จรูปจาก PMCT และนำไปผลิตต่อตามคำสั่งซื้อของลูกค้า
นายเอก เชื่อมั่นว่าผลประกอบการของบริษัทหลังจากควบรวมกิจการกับกลุ่ม PMC จะดีขึ้นอย่างแน่นอนในปีนี้ โดยได้มีการเข้าไปลงลึกถึงรายละเอียดการทำงานของ PMC ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงระบบบัญชี การรับรู้รายได้ อีกทั้งการควบรวมครั้งนี้ทำให้ฐานลูกค้าของมีมากขึ้น จึงต้องลงไปทำความรู้จักกับลูกค้าใหม่ พร้อมทั้งศึกษา และวิเคราะห์ถึงความต้องการของตลาดสติ๊กเกอร์ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมกาวโดยตรง ประกอบด้วยอุตสาหกรรมกาวโลกก็ยังเติบโตต่อเนื่อง