ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,629.29 จุด ลดลง 0.11 จุด (-0.01%) มูลค่าการซื้อขาย 17,738.15 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,631.21 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ระดับ 1,625.77 จุด
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบมาก วอลุ่มเทรดหดหายไป เนื่องจากตลาดฯไม่มีปัจจัยหนุน ขณะเดียวกันยังรอดูความชัดเจนจากทิศทางการเมืองไทย ซึ่งพรุ่งนี้ (29 มี.ค.) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะประกาศผลนับคะแนน 95% โดยนักลงทุนต้องการความชัดเจนของผลคะแนน ซึ่งจะบ่งชี้ถึงจำนวนส.ส.แบบแบ่งเขต และบัญชีรายชื่อ
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ก็เคลื่อนไหวคล้ายคลึงกับตลาดหุ้นไทย โดยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบสลับกันเล็กน้อย เนื่องจากต่างก็ยังรอดูความคืบหน้าการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) และในช่วง 1-2 วันนี้ก็รอดูการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ดังนั้น เวลานี้ปัจจัยในประเทศ และนอกประเทศยังคลุมเครือ ทำให้นักลงทุนยังคงชะลอการลงทุนอยู่
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯคงจะผันผวน เนื่องจากวันนี้เป็นวันสุดท้ายของการปิดสัญญา ซีรี่ย์ H ของ SET50 Index ในตลาด TFEX ทำให้ในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายก่อนปิดตลาดฯดัชนีฯอาจผันผวนได้ อีกทั้งใกล้ช่วงปิดงบฯไตรมาส 1/62 ก็ต้องรอดูว่าจะมีการทำ Window Dressing หรือไม่
พร้อมให้แนวรับ 1,620 จุด ส่วนแนวต้าน 1,640 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 840.67 ล้านบาท ปิดที่ 189.50 บาท ลดลง 2.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 805.20 ล้านบาท ปิดที่ 47.25 บาท ลดลง 0.25 บาท
GULF มูลค่าการซื้อขาย 539.97 ล้านบาท ปิดที่ 96.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 527.34 ล้านบาท ปิดที่ 24.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 511.32 ล้านบาท ปิดที่ 67.25 บาท ลดลง 0.25 บาท