ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กกระแสคาดเฟดลดดบ. ดันดาวโจนส์ปิดพุ่ง 96.41 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 30, 2008 06:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (29 ม.ค.) จากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้าน กลุ่มธนาคาร และกลุ่มประกัน ซึ่งเป็นผลมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดอัตราดอกเบี้ยอีกในการประชุมซึ่งจะเสร็จสิ้นในคืนวันที่ 30 ม.ค.(ตามเวลาประเทศไทย)
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น 96.41 จุด หรือ 0.78% แตะระดับ 12,480.30 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 8.33 จุด หรือ 0.62% แตะระดับ 1,362.30 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดดีดขึ้น 8.15 จุด หรือ 0.35% แตะระดับ 2,358.06 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.56 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 9 ต่อ 5 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 2.24 พันล้านหุ้น
การประชุมเพื่อกำหนดอัตราดอกเบี้ยของเฟดเป็นประเด็นที่นักลงทุนจับตาดูมากที่สุดในสัปดาห์นี้ โดยนักลงทุนและนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.50% หลังจากที่ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉินไปแล้ว 0.75% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูแถลงการณ์ของเฟดเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและภาวะในตลาดการเงิน อีกทั้งยังให้น้ำหนักกับรายงานผลประกอบการของบริษัทเอกชน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 5.2% ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะขยับขึ้นเพียง 1.5% หลังจากปรับตัวลดลง 0.1% ในเดือนพ.ย. ขณะที่สำนักงานคอนเฟอร์เรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐรายงานว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนม.ค.ปรับตัวลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้
นายท้อดด์ ลีออง นักวิเคราะห์จากบริษัทโคเวน แอนด์ โค กล่าวว่า "นักลงทุนจะติดตามข้อมูลเศรษฐกิจต่อไป และดูว่าเฟดจะมีความคิดเห็นอย่างไรต่อข้อมูลเหล่นี้ เมื่อดูจากภาวะโดยรวมแล้ว ผมมองว่า ตลาดกำลังเข้าสู่รูปแบบเดิมๆ คือถูกขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเศรษฐกิจ"
ในระหว่างแถลงนโยบายประจำปีเมื่อวานนี้ ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช แห่งสหรัฐ พยายามคลี่คลายความวิตกของชาวอเมริกันที่มีต่อภาวะเศรษฐกิจ โดยกล่าวว่าปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง พร้อมกับเรียกร้องให้สภาคองเกรสเร่งดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ มูลค่า 1.5 แสนล้านดอลลาร์ที่นำเสนอไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในทันที
หุ้นอเมริกัน เอ็กซ์เพรส์ (เอเม็กซ์) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการบัตรเครดิตรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก พุ่งขึ้น 40 เซนต์ ปิดที่ 47.80 ดอลลาร์ แม้มีข่าวว่ากำไรไตรมาส 4 ของเอเม็กซ์ลดลง 10% หลังจากบริษัทต้องตั้งสำรองเงินสดมากขึ้นเพื่อรับมือกับปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ของผู้ถือบัตร
ส่วนหุ้นคันทรีไวด์ ไฟแนนเชียล ซึ่งเป็นสถาบันการเงินผู้ปล่อยกู้จำนองเพื่อซื้อบ้าน พุ่งขึ้น 6.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุนที่สอคคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ขณะที่หุ้นแบงค์ ออฟ อเมริกา ดีดขึ้น 74 เซนต์ ปิดที่ 41.93 ดอลลาร์
หุ้นยาฮูร่วงลง 5.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 4 สูงเกินคาด แต่นักลงทุนผิดหวังที่ยาฮูปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการปี 2551

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ