นายสุเวทย์ ธีรวชิรกุล กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.เอ็ม บี เค (MBK) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 62 จะเติบโตราว 8% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.2 หมื่นล้านบาท โดยได้รับปัจจัยสนุบสนุนหลักจากการรับรู้รายได้ของศูนย์การค้าที่จะมีการปรับอัตราค่าเช่าขึ้นเฉลี่ย 2 %
ขณะที่ธุรกิจสินเชื่อ แบ่งเป็น สินเชื่อรถจักรยานยนต์ และสินเชื่อที่พักอาศัยนั้น มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้คาดว่าจะเติบโตได้ จากปีก่อนที่มีพอร์ตสินเชื่ออยู่ราว 1.3 หมื่นล้านบาท และบริษัทตั้งเป้าภายใน 5 ปี (62-66) จะเติบโตขึ้นเป็น 2 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทวางงบลงทุนในช่วง 3 ปี (ปี 62-64) 4,389 ล้านบาท แบ่งเป็น ปี 62 ประมาณ 1,392 ล้านบาท, ปี 63 ประมาณ 1,428 ล้านบาท และปี 64 ประมาณ 1,569 ล้านบาท
สำหรับแผนลงทุนในธุรกิจศูนย์การค้า ได้แก่ 1.MBK Center รวมงบลงทุน ประมาณ 299 ล้านบาท เพื่อลงทุนระบบการดำเนินงาน และพื้นที่เช่าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 2.การปรับปรุงพื้นที่ทั่วไปใน Paradise Park และ Paradise Place จะมีการปรับปรุงพื้นที่ชั้น 1,4 อีกทั้งยังมีแผนสร้างทางเชื่อมสถานีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเข้ากับตัวศูนย์การค้า รวมงบลงทุนประมาณ 177 ล้านบาท
และ 3.The Nine เพื่อพัฒนาศูนย์การค้าใหม่ แถวแยกติวานนท์ บนพื้นที่ 30 ไร่ พื้นที่เช่าเฉลี่ย 20,000 ตารางเมตร (ตร.ม.) เบื้องต้นจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในไตรมาส 3/62 และเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาส 3/63 รวมงบลงทุนประมาณ 370 ล้านบาท
ขณะที่ธุรกิจธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวมีแผนลงทุน ได้แก่ 1.การลงทุนในโรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส เพื่อปรับปรุงห้องพัก จำนวน 455 ห้อง รวมลงทุนประมาณ 394 ล้านบาท 2. การลงทุนโรงแรมดุสิตธานี กระบี่ บีช รีสอร์ท เพื่อขยายห้องพักวิลล่า จำนวน 20 ห้อง รวมงบลงทุนประมาณ 328 ล้านบาท 3. โรงแรมลยานะ รีสอร์ท แอนด์ สปา และ โรงแรมทินิดี โฮเต็ล แอท ระนอง รวมงบลงทุนประมาณ 39 ล้านบาท 4. โรงแรมที่อ่าวนาง จ.กระบี่ พัฒนาห้องวิลล่า จำนวน 20 ห้อง รวมงบลงทุนประมาณ 29 ล้านบาท ส่วนธุรกิจกอล์ฟ รวมงบลงทุนประมาณ 53 ล้านบาท และธุรกิจธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยมีแผนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม จำนวน 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1,521 ล้านบาท ได้แก่ โครงการคอนโดมิเนียม บริเวณสถานีรถไฟฟ้า ปุณณวิถี ขนาด 350 ยูนิต, โครงการคอนโดมิเนียม บริเวณสถานีรถไฟฟ้าวุฒากาศ ขนาด 450 ยูนิต และโครงการคอนโดมิเนียม จรัญสนิทวงศ์ บริเวณใกล้ BTS จรัญสนิทวงศ์ซอย 33 ขนาด 700 ยูนิต รวมไปถึงโครงการแนวราบ ได้แก่ โครงการบ้านแนวราบ มูลค่าโครงการรวม 1,081 ล้านบาท ซึ่งเป็นการพัฒนาโครงการที่มีอยู่แล้ว และโครงการอื่นๆเป็นต้น
นอกจากนี้ บริษัทยังจะมีการลงทุนในธุรกิจสอาหาร โดยจะมีการเปิดฟู๊ดคอร์ดใหม่ที่ศูนย์การค้าสยามมิตรทาวน์ ขนาดพื้นที่ 1,200 ตารางเมตร จำนวน 700 ที่นั่ง โดยจะมีการดึงร้านอาหารแบร์นดังเข้ามาจำนวนมาก และการขยายธูรกิจอาหารญี่ปุ่น เฉลี่ย 3-4 สาขา ในแต่ละปี
นายสุเวทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทมีแผนที่จะออกหุ้นกู้ในปีนี้เพิ่มเติม เพื่อทดแทนหุ้นกู้ระยะสั้นที่มีอยู่กว่า 2,000 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตาม ยังต้องดูอัตราดอกเบี้ยที่มีความเหมาะสม และมูลค่าที่จะออกในแต่ละช่วงระยะเวลาด้วย
ส่วนแผนการขายสินทรัพย์ "ดุสิตธานี มัลดีฟส์" เข้ากอง REIT มูลค่า 2,304 ล้านบาท คาดสรุปได้ภายในช่วงไตรมาส 3/62 นี้ โดยบริษัทจะรับรู้รายได้เข้ามาตามส่วนการถือหุ้นที่ 35%