NDR รับรายได้ปีนี้ทรงตัวจากปีก่อนที่ราว 1 พันลบ. หลังเศรษฐกิจทั้งใน-ตปท.ชะลอ, ตั้งเป้าอัตรากำไรสุทธิเพิ่มเป็น 4%

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday April 2, 2019 11:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอ็น.ดี.รับเบอร์ (NDR) เปิดเผยว่า บริษัทคาดรายได้ปีนี้จะทรงตัวจากราว 1 พันล้านบาทปีก่อนเนื่องจากเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศมีทิศทางที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง และยังมีการแข่งขันในประเทศค่อนข้างมาก โดยคาดว่าปริมาณการขายยางนอกจะทำได้ราว 2 ล้านเส้น ใกล้เคียงกับปีก่อน

อย่างไรก็ตามบริษัทตั้งเป้าอัตรากำไรสุทธิปีนี้จะขึ้นแตะระดับ 4% จากปีก่อนอยู่ที่ 2.82% โดยเป็นผลมาจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมาร์จิ้นสูง และสินค้าของบริษัท Fung Keong Rubber Manufactory (Malaya) Sdn. Bhd. (FKRMM) ที่เน้นขายผลิตภัณฑ์ที่มีมร์จิ้นสูงเป็นหลัก นอกจากนี้บริษัทยังคงเน้นการบริหารจัดการต้นทุนด้านอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย

ทั้งนี้ บริษัทได้ตั้งงบลงทุนไว้ราว 30-50 ล้านบาท เพื่อลงทุนปรับเปลี่ยนโรงงานให้เป็นระบบออโตเมชั่น ซึ่งเป็นตามแผนที่ต้องการลดต้นทุนด้านแรงงาน และช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไร รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยบริษัทมีเป้าหมายลดต้นทุนแรงงานเหลือ 12% จากเดิมที่มีต้นทุนแรงงาน 17% ของต้นทุนรวม

นายชัยสิทธิ์ กล่าวอีกว่า บริษัทยังคงเดินหน้าขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยในปีนี้จะจัดตั้งตัวแทนจำหน่ายในประเทศฟิลิปปินส์เพิ่มเติม ขณะที่ตลาดมาเลเซีย ซึ่งเป็นตลาดเดิมก็จะปรับให้เป็น Professional Trading ของสินค้าเกี่ยวกับมอเตอร์ไซด์ ด้วยการหาประเภทสินค้าเข้ามาเพิ่มขึ้น และขยายตลาดในประเทศเวียดนามกับอินโดนีเซีย รวมถึงลาว ซึ่งปีก่อนมีอัตราการเติบโตที่ดี โดยประเมินว่าตลาดในลาวยังมีศักยภาพเติบโตได้ดี ซึ่งตั้งเป้าสัดส่วนรายได้ปีนี้ แบ่งเป็น ต่างประเทศ 60% และในประเทศ 40% จากปีก่อนที่มีสัดส่วนต่างประเทศ 50% และในประเทศ 50%

"ตลาดในประเทศมีการแข่งขันสูง แต่อย่างไรก็ตามเรายังมีรายได้มาจากต่างประเทศ ทำให้ช่วยลดผลกระทบและกระจายความเสี่ยงของรายได้ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้เรามีแผนการจัดโปรโมชั่นต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นการซื้อให้เพิ่มขึ้น ทำให้เชื่อมั่นว่าผลประกอบการในปีนี้จะอยู่ในระดับที่ดี" นายชัยสิทธิ์ กล่าว

สำหรับทิศทางผลประกอบการในช่วงไตรมาส 1/62 นี้ บริษัทคาดว่าผลประกอบการจะเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นผลมาจากการรับรู้รายได้เข้ามาเต็มไตรมาสของ FKRMM ในประเทศมาเลเซีย ที่บริษัทได้เข้าซื้อกิจการทั้ง 100% ในปีที่ผ่านมา พร้อมกันนี้บริษัทยังเซ็นสัญญากับลูกค้ารายใหม่อีก 1 ราย เพื่อที่จะจำหน่ายยาง 50,000 เส้นต่อเดือน โดยคิดเป็นมูลค่ารวมในปีนี้ราว 120-130 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ