MJD เผยปี 51 รับรู้รายได้จาก 8 โครงการเดิม มูลค่า 1.38 หมื่นลบ.

         นายสุริยน พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ (MJD) เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทมีโครงการคอนโดมิเนียมระดับหรูที่อยู่ระหว่างการดำเนินการทั้งหมด 8 โครงการ มูลค่ารวม 13,800 ล้านบาท ประกอบด้วย ฟูลเลอตัน สุขุมวิท, วอเตอร์มาร์ค เจ้าพระยาริเวอร์ ทาวเวอร์เอ, วอเตอร์มาร์ค เจ้าพระยาริเวอร์ ทาวเวอร์บี, แมนฮัตตัน ชิดลมวินด์ สุขุมวิท 23, วินด์ รัชโยธิน, อกัสตัน สุขุมวิท 22 และมิคโคนอส หัวหิน โดยในปีนี้คาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้จากทั้ง 8 โครงการ
          จากที่ในปี 50 รายได้หลักมาจากโครงการ วอเตอร์มาร์ค ทาวเวอร์ เอ มูลค่า 3,900 ล้านบาท โครงการแมนฮัตตัน ชิดลม ซึ่งมูลค่าโครงการอยู่ที่ 1,250 ล้านบาท และบางส่วนจากโครงการ ฟูลเลอตัน สุขุมวิท ซึ่งมีมูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท
          ส่วนกรณีที่สำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้กำหนดแนวทางให้ผู้ประกอบการปฏิบัติการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) นั้น ทุกโครงการของบริษัทฯ ได้ใบรับรองผ่านเกณฑ์ EIA เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะบริษัทฯ ได้คำนึงถึงปัญหาโลกร้อนมาโดยตลอด ดังนั้นจึงไม่ส่งผลต่อการพัฒนาโครงการ หรือทำให้โครงการเสร็จล่าช้าแต่อย่างใด
          สำหรับความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอย จะไม่ส่งผลกระทบกับการดำเนินงานของบริษัท โดยเฉพาะที่มีความกังวลว่ากำลังซื้อจะลดลง เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ชัดเจน โดยเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อมาก และสามารถตัดสินใจซื้อได้ง่าย ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในขณะนี้จะเป็นเพียงปรากฎการณ์ในระยะสั้นๆซึ่งไม่น่าจะส่งผลต่อการตัดสินใจของกลุ่มลูกค้าหลัก 
          ในปัจจุบันจำนวนที่พักอาศัยประเภทคอนโดมิเนียมในระดับไฮเอนด์ยังไม่ได้ล้นหรือเกินกว่าความต้องการที่มีอยู่ในตลาดโดยมีข้อมูลสำรวจชัดเจนว่าความต้องการคอนโดมิเนียมระดับเกรดเอ ที่มีราคาสูงกว่า 5 ล้านบาทขึ้นไป ยังมีความต้องการอยู่มาก เมื่อเทียบกับคอนโดมิเนียมระดับกลาง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เป็นศูนย์กลางธุรกิจ
          “เชื่อว่า ตลาดคอนโดมิเนียมระดับบนจะยังมีโอกาสเติบโตและเป็นที่ต้องการอยู่ ซึ่งอย่างน้อยก็เติบโตไปได้อีกในระยะ 1—3 ปีนี้ แต่หากความต้องการของผู้บริโภคเปลี่ยนไป บริษัทก็ไม่กังวล เพราะทุกโครงการของ MJD มีความยืดหยุ่นเพียงพอที่จะสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบโครงการให้เป็นประเภทอื่นๆ ได้ เช่น โครงการเซอร์วิสอพาร์ตเม้นท์หรือโรงแรม" นายสุริยน กล่าว