น.ส.ขัตติยา อินทรวิชัย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) กล่าวว่า ธนาคารมั่นใจว่าสินเชื่อปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าที่ 5-7% แม้ภาพรวมครึ่งปีแรกยังชะลอตัวเมื่อเทียบกับที่ตั้งเป้าไว้ ตามการปล่อยสินเชื่อ SME และสินเชื่อธุรกิจ (Corporate) ที่ ชะลอตัวจากภาวะเศรษฐกิจและการส่งออกที่ลดลง แต่สินเชื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อผู้บริโภคยังคงเติบโตได้ดี
อย่างไรก็ตาม ธนาคารเชื่อว่าครึ่งปีหลังภาพรวมสินเชื่อจะกลับมาฟื้นตัวได้ หลังจากมีรัฐบาลใหม่เข้าบริหารประเทศและขับเคลื่อนนโยบายต่าง ๆ ก็จะทำให้การลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชนเดินหน้าต่อไปได้ ประกอบกับสินเชื่อต่างประเทศยังคงเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อผลประกอบการในปีนี้เติบโตดีกว่าปีก่อน
ในปีนี้ KBANK มีแผนปิดสาขา 80 สาขา และจะเปิดเพิ่มอีก 30 สาขา รวมถึงอยู่ระหว่างเจรจาแต่งตั้งแบงก์กิ้งเอเย่นอยู่หลายราย คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในครึ่งปีแรกอีก 1 ราย จากปัจจุบันมีอยู่แล้ว 1 ราย คือ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ซึ่งจากการดำเนินงานดังกล่าวมองว่าจะช่วยลดต้นทุนด้านการบริการโดยรวมของธนาคารลงเฉลี่ยเหลือ 50 บาท/ธุรกรรม จากเดิม 100 บาท/ธุรกรรม เนื่องจากมีบริการโมบายแบก์กิ้ง และแบงก์กิ้งเอเย่นเข้ามาเสริม
น.ส.ขัติยา กล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจในปี 62 ว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ประเมินว่าเศรษฐกิจโลกจะมีอัตราการเติบโตในระดับ 3.5% ตามทิศทางของปริมาณการค้าโลกและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการที่อังกฤษจะออกจากการเป็สมาชิกสหภาพยุโรป (Brexit) โดยไม่มีข้อตกลง ขณะที่ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจประเทศพัฒนาแล้วและประเทศที่อยู่ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ อาจจะชะลอตัวมาที่ 2% และ 4.5% ตามลำดับ ซึ่งอาจมีผลต่อแนวทางการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลก
ขณะที่ทิศทางเศรษฐกิจไทยในปี 62 คาดว่าจะขยายตัวชะลอลงมาที่ 3.5-4.2% เนื่องจากภาคส่งออกขยายตัวลดลงเมื่อเทียบกับฐานที่สูงในปีก่อน แต่อย่างไรก็ตาม น่าจะได้แรงหนุนชดเชยจากการลงทุนภาครัฐและเอกชนที่น่าจะขยายตัวดีขึ้นจากปีก่อน โดยยังต้องจับตาการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ และสถานการณ์ตลาดเงินตลาดทุนทั่วโลกที่อาจจะมีความผันผวนต่อเนื่อง จากปัจจัยความเสี่ยงสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ซึ่งอาจส่งผลต่อการเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างประเทศ
ด้านอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะมีค่าเฉลี่ยที่ 0.8% ชะลอลงจาก 1.1% ในปีก่อน จากทิศทางราคาพลังงานในประเทศที่น่าจะชะลอลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลก และอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยน่าจะมีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับ 1.75% ในช่วงครึ่งปีแรกนี้
นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KBANK กล่าวว่า ไม่กังวลเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัวจะกระทบกับการปล่อยกู้ เพราะเชื่อว่าหลังงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกแล้วฝ่ายการเมืองจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ โดยมองการปล่อยกู้จะต้องมาพร้อมกับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ บนพื้นฐานการเมืองที่ต้องสงบเรียบร้อย
"การปล่อยกู้ จะต้องมาพร้อมกับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ไม่ใช่ปล่อยไปแบบไม่มีความหมาย และต้องอยู่บนการเมืองที่ต้องเรียบร้อยพอสมควร ไม่ใช่มาราวีกันอยู่ตอนนี้ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ภายในครึ่งปีแรก"นายบัณฑูร กล่าว