(เพิ่มเติม) กบข.เผยปี 51 ขยายลงทุนตปท.ด้านโครงสร้างพื้นฐาน-นิติบุคคล-กองทุนอสังหาฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 30, 2008 14:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กล่าวถึงทิศทางการลงทุนในปี 2551 ว่า ในปี 51 กบข.จะขยายการลงทุนต่างประเทศเพิ่มขึ้นภายใต้เพดาน 25% โดยจะเข้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน, นิติบุคคล และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายของโลกที่คาดว่าจะมีความผันผวนในปีนี้ 
ผลกระทบจากปัญหาซับไพร์มที่มีต่อเศรษฐกิจไทย ทำให้รัฐบาลใหม่ที่เข้ามาจำเป็นต้องมีมาตรการกระตุ้นใช้จ่ายในประเทศและบรรเทาผลกระทบต่อการส่งออก และคาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะปรับลดดอกเบี้ยในประเทศลง 0.25-0.50% ภายในช่วงกลางปีนี้ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ปรับลดไปแล้ว เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งจะช่วยให้การลงทุนในตลาดหุ้นดีขึ้น
นายวิสิฐ กล่าวว่า กบข.ตั้งเป้าหมายผลตอบแทนจากการลงทุนในปี 51 ไว้ที่ 5% ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ conservative โดยลดลงจากในปี 50 ที่มีผลตอบแทนจากการลงทุนถึง 9.22% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจขณะนี้มีความไม่แน่นอนสูงทำให้ประเมินการเข้าไปลงทุนได้ยาก โดยในระยะ 2-3 เดือนจากนี้จะชะลอการเข้าไปลงทุนในหุ้นทั้งในและต่างประเทศ เนื่องจากมองว่าตลาดค่อนข้างมีความผันผวนจากผลกระทบของปัญหาซับไพรม์ในสหรัฐฯ
พร้อมกับเห็นว่าการถือเงินสดในระยะนี้จะมีความเสี่ยงน้อยกว่า อีกทั้งนักลงทุนระยะยาวส่วนใหญ่ต่างเทขายหุ้นเพื่อถือครองเงินสด ซึ่ง กบข.ถือเป็นนักลงทุนระยะยาวเช่นกัน และหากสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้วจึงจะกลับเข้าไปลงทุนตามเดิม โดยจะเริ่มเข้าไปลงทุนกับหุ้นของกลุ่มประเทศในเอเชียก่อนเป็นลำดับแรก เพราะตลาดในเอเชียสามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าตลาดในยุโรปและสหรัฐฯ ที่ยังคงมีความเสี่ยงสูง แต่ทั้งนี้ยังไม่ลืมที่จะคำนึงถึงการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนด้วย
เลขาธิการ กบข.ยังกล่าวด้วยว่า กบข.ได้ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นต่างประเทศเป็น 13-14% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนอยู่ 8% หลังจากที่ พ.ร.บ.กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ มีผลบังคับใช้ซึ่งคาดว่าประมาณเดือน ก.พ.51 โดยจะทำให้ กบข.สามารถขยายเพดานการลงทุนในต่างประเทศเป็นไม่เกิน 25% จากเดิมที่ไม่เกิน 15%
ส่วนผลการดำเนินงานปี 50 กบข.สามารถสร้างผลตอบแทนต่อผู้ถือหน่วยสงกว่าที่คาดไว้ที่ 5-6% มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (NAV) อยู่ที่ 375,551 ล้านบาท โดย กบข.จะกระจายลงทุนไปในตราสารหนี้ในประเทศ 64.30%, ตราสารทุนในประเทศ 13.33%, ตราสารต่างประเทศ 13.62%, กองทุนรวมอสังหาฯ 3.96% และ การลงทุนทางเลือก 4.79%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ