PTTGC คาดเกณฑ์ใหม่ IMO กระทบน้อยเหตุสามารถผลิตน้ำมันเตากำมะถันต่ำได้

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday April 5, 2019 17:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) เปิดเผยว่า การที่องค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) กำหนดให้เรือเดินสมุทรต้องใช้น้ำมันเตาที่มีค่ากำมะถันต่ำไม่เกินกว่า 0.5% จาก 3.5% ในปัจจุบัน ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.63 นั้นเชื่อว่าจะได้รับผลกระทบน้อย เนื่องจากสามารถผลิตน้ำมันเตากำมะถันต่ำได้ อีกทั้งยังสามารถผลิตน้ำมันดีเซล ตามมาตรฐานยูโร 5 ก็จะเป็นโอกาสของบริษัทเพราะคาดว่าความต้องการใช้ดีเซลจะเพิ่มขึ้นในช่วงดังกล่าวเพื่อนำไปผสมกับน้ำมันเตาคุณภาพกลางเพื่อให้ได้น้ำมันเตากำมะถันตามเกณฑ์ IMO

"เรื่องของ IMO จะกระทบต่อสเปรดน้ำมันเตากำมะถันสูงให้ต่ำลงเยอะ ขณะที่สเปรดดีเซลจะดีขึ้น แต่ของเราผลิตน้ำมันเตากำมะถันต่ำได้ตามการเลือกใช้วัตถุดิบ ทำให้ผลกระทบจาก IMO มีน้อยกว่าคนอื่น...การที่เราผลิตยูโร 5 ได้ก็เป็นโอกาสสำหรับเรา"นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวในที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2562

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการที่ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ได้สัญญาแบ่งปันผลผลิต (PSC) แหล่งบงกชและเอราวัณหลังสัมปทานเดิมจะหมดอายุในปี 65-66 ด้วยราคาประมูลก๊าซธรรมชาติที่ต้นทุนต่ำ ในฐานะที่บริษัทเป็นผู้รับซื้อก๊าซอีเทนและโพรเพนจากโรงแยกก๊าซฯบมจ.ปตท. (PTT) ที่รับก๊าซฯมาจาก PTTEP นั้น ขณะนี้บริษัทยังไม่ชัดเจนว่าจะได้รับประโยชน์จากเรื่องดังกล่าวมากน้อยเพียงใด เพราะเป็นช่วงที่หมดสัญญาซื้อขายก๊าซฯ ดังนั้น จึงต้องขึ้นอยู่กับการเจรจาโดยพิจารณาจากสูตรราคาต่าง ๆ

ด้านแผนการลงทุนต่างประเทศนั้น บริษัทก็ยังเดินหน้าขยายงานต่อเนื่องโดยเฉพาะในกลุ่ม CLMV กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม และอินโดนีเซีย ซึ่งจะเริ่มจากด้านการตลาดเพื่อสร้างฐานและมองโอกาสต่อยอด ปัจจุบันมองโอกาสธุรกิจปิโตรเคมีปลายน้ำในอินโดนีเซีย ขณะที่ยังมีความตั้งใจเข้าไปลงทุนโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ในสหรัฐที่เป็นแหล่งก๊าซฯที่ราคาไม่แพง ก็จะเป็นโอกาสของบริษัทต่อไป โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนของโครงการใน 4-5 เดือนข้างหน้า

ส่วนการลงทุนในช่วง 3 ปี (ปี 62-64) คาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 1 แสนล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นการลงทุนโครงการต่อเนื่อง 2 โครงการใหญ่ ได้แก่ โครงการขยายกำลังการผลิตโอเลฟินส์ และโครงการ Propylene Oxide (PO)/Polyols ซึ่งจะใช้เงินลงทุนรวม 7 หมื่นล้านบาท จะแล้วเสร็จในปี 63 และเร็ว ๆ นี้จะวางศิลาฤกษ์โครงการเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ เพื่อดำเนินการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์พลาสติกวิศวกรรมชั้นสูง High Heat Resistant Polyamide-9T (PA9T) และ Hydrogenated Styrenic Block Copolymers (HSBC) มูลค่าลงทุนราว 3 หมื่นล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ