หุ้น NPPG บวก 4.24% มาอยู่ที่ 1.23 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท มูลค่าซื้อขาย 15.40 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.10 น. โดยเปิดตลาดที่ 1.24 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1.27 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 1.23 บาท
บมจ.เอ็นพีพีจี (ประเทศไทย) (NPPG) แจ้งว่า BTG Vault Pte. Ltd. จะเข้าซื้อหุ้นสามัญของ NPPG จำนวน 285,000,000 หุ้น คิดเป็น 15% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ NPPG จากผู้ถือหุ้นเดิม ได้แก่ 1.นายสุรพงษ์ เตรียมชาญชัย เป็นจำนวนหุ้น 200,000,000 หุ้น คิดเป็น 10.53% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัท 2.นายกำจัด รามกุล เป็นจำนวนหุ้น 35,000,000 หุ้น คิดเป็น 1.84% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมด 3.นายชนะชัย ลีนะบรรจง เป็นจำนวนหุ้น 25,000,300 หุ้น คิดเป็น 1.32% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมด 4.BNP PARIBAS SINGAPORE BRANCH เป็นจ นวนหุ้น 24,999,700 หุ้น คิดเป็น 1.32% ของ สิทธิออกเสียงทั้งหมด และจะทำการซื้อขายเสร็จภายในสิ้นเดือน เม.ย.62
สำหรับ BTG Vault เป็นบริษัทที่มีการประกอบธุรกิจโดยมีรายได้จากการถือหุ้นในบริษัทอื่นเป็นหลัก (Holding Company) จัดตั้งอยู่ที่สิงคโปร์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ BreadTalk Group Limited (BTG) ถือหุ้นทั้ง 100% ใน BTG Vault จัดตั้งอยู่ที่สิงคโปร์และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ประกอบธุรกิจบริการอาหารหลายรูปแบบ ทั้งขนมปัง, เค้ก,ศูนย์อาหารชั้นนำต่างๆ ที่เปิดบริการหลายประเทศในเอเชีย และตะวันออกกลาง รวมร้านอาหารในเครือกว่า 1,000 สาขาใน 16 ประเทศ ซึ่งประกอบไปด้วยหลายแบรนด์ เช่น BreadTalk, Toast Box, Food Republic, Bread Society, Din Tai Fung เป็นต้น
การเข้าซื้อหุ้นของ BTG Vault ในครั้งนี้จะนำมาซึ่งจุดแข็งทางด้านการบริหารจัดการร้านค้าปลีกกิจการอาหารและเครื่องดื่ม ของผู้ลงทุนเอง ผนวกกับจุดแข็งของ NPG เองในด้านบรรจุภัณฑ์และอุตสาหกรรมอาหารรวมไปถึงเครือข่ายคู่ค้าท้องถิ่นมากประสบการณ์ด้านการผลิตและจัดจำหน่ายอาหาร โดยในปี 61 NPPG มีรายได้ทั้งหมด 1,186 ล้านบาท ประกอบด้วย กลุ่มบรรจุภัณฑ์มีสัดส่วน 55% กลุ่มอาหารปรุงสำเร็จแช่แข็งมีสัดส่วน 28% และกลุ่มร้านอาหารบริการด่วนมีสัดส่วน 17% ซึ่งการผนึกกำลังครั้งนี้จะนำไปสู่ช่องทางทำรายได้ใหม่ๆ ในขณะที่สามารถลดต้นทุนการผลิตลงไปได้ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานกรรมการบริหาร NPPG เปิดเผยว่า BreadTalk Group เป็นที่ยอมรับและเป็นผู้นำในธุรกิจอาหารและร้านอาหารในเอเชีย เส้นทางการเติบโตในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานั้นถือว่ายอดเยี่ยมมาก โดยสร้างความสามารถในการทำกำไรแบบยั่งยืนในธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง จึงเชื่อว่า NPPG ต้องประสานกำลังและเรียนรู้จาก BreadTalk Group ได้อีกมาก เนื่องจากขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการขยาย Dean & Deluca
อีกทั้งความรู้และประสบการณ์ของ BreadTalk Group ในด้านร้านอาหารและเครื่องดื่มจะทำให้ NPPG เติบโตไปได้รวดเร็วและแข็งแรงยิ่งขึ้น ขณะนี้งบการเงินของ NPPG มีความสามารถพอที่จะส่งเสริมกลยุทธ์การขยายและการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วได้อย่างเต็มที่ ความร่วมมือกับ BreadTalk Group ครั้งนี้จะทำให้ได้เห็นผลจากการพยายาม Turnaround ที่รวดเร็วขึ้นในอัตราที่เพิ่มขึ้น
ขณะนี้ NPPG ใกล้เป้าหมายของการ Turnaround และกำลังเตรียมตัวให้พร้อมรับกับสมรรถนะทางการเงินที่แข็งแกร่งและกลยุทธ์การเติบโตที่รวดเร็ว โดยมุ่งเน้นไปที่อัตราส่วนผลตอบแทนการลงทุนในธุรกิจร้านอาหารจานด่วน เพื่อให้เป็นการลงทุนที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลซึ่งนำไปสู่การคืนทุนที่รวดเร็ว และขณะนี้ NPPG ก็กำลังประเมินการปรับปรุงโรงงานอาหารแช่แข็ง แช่เย็น เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่คาดว่าจะมีการเติมโตขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
ส่วนธุรกิจด้านบรรจุภัณฑ์ของ NPPG ได้ผูกสัมพันธ์กับคู่ค้าทางกลยุทธ์หลักไว้แล้วเพื่อรับประกันการสั่งซื้อที่ต่อเนื่องในระยะยาวซึ่งจะทำให้เกิดกำไรที่ยั่งยืน ทางบริษัทได้ทำโครงการลดค่าใช้จ่ายหลักไปแล้วเพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไร โดยโครงการเหล่านั้นเริ่มจะเกิดผลในไตรมาสที่กำลังจะมาถึงนี้ และด้วยความที่บริษัทมีเงินสดจำนวนมาก ผู้บริหารระดับสูงจึงอยู่ระหว่างประเมินโอกาสในการเข้าซื้อกิจการที่จะมาเกื้อหนุนธุรกิจบรรจุภัณฑ์ และทำให้เกิดการเกื้อกูลกันในแง่ของการลดต้นทุนและเพิ่มทางเลือกสินค้าให้แก่ลูกค้า
นาย Henry Chu ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BreadTalk Group กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดหลักของเราและเราเห็นว่า NPPG มีค่าที่ซ่อนอยู่มาก การเข้าซื้อหุ้นเพื่อส่วนร่วมในการบริหารงานของ NPPG ครั้งนี้จะทำให้เราได้โอกาสทั้งในตลาดประเทศไทยและตลาดแม่น้ำโขง ช่องทางการเข้าถึงร้านสะดวกซื้อในประเทศไทยที่กว้างขวางของ NPPG นั้นจะเป็นเครือข่ายกระจายสินค้าของเราในอนาคต ความแข็งแรงในธุรกิจด้านบรรจุภัณฑ์อาหารและธุรกิจอาหารแช่แข็งของพวกเขาก็สามารถเกื้อหนุนได้อีกเช่นกัน
ปัจจุบัน BreadTalk Group มีรายได้ 600 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ มีกำไรสุทธิ 19.9 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ โดยธุรกิจของ BreadTalk Group ในประเทศไทยประกอบไปด้วย ร้านขนมปัง BreadTalk ร้านอาหาร Din Tai Fung และ Song Fa Bak Kut teh รวมถึงศูนย์อาหาร Food Republic