นางอเล็กซานดรา ไรช์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) นำส่งเงินรายได้ขั้นต่ำจากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ บนคลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกกะเฮิรตซ์ และ 850 เมกกะเฮิรตซ์ในช่วงระยะเวลาคุ้มครองผู้ใช้บริการ หลังสิ้นสุดสัมปทานเมื่อ 15 ก.ย.61 ซึ่งเป็นช่วงการใช้คลื่นตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.-15 ธ.ค.61 เป็นจำนวนเงิน 603,806,875 บาท แก่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)
ทั้งนี้ ตามที่ DTAC และ บมจ.กสท โทรคมนาคม ได้ร่วมกันยื่นแผนความคุ้มครองลูกค้า ในกรณีสิ้นสุดการอนุญาตสัมปทาน หรือสัญญาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ต่อ กสทช. เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.61 อันเนื่องจากสัญญาสัมปทานจะสิ้นสุดลงวันที่ 15 ก.ย.61 โดยขณะนั้นมีลูกค้าดีแทคที่ยังคงค้างอยู่ในคลื่นย่าน 850 เมกกะเฮิรตซ์ และ 1800 เมกกะเฮิรตซ์อีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้โอนย้าย ทำให้จะเกิดผลกระทบหรือซิมดับ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องได้รับความคุ้มครองเพื่อไม่ให้กระทบการใช้งาน
DTAC ได้นำส่งเงินรายได้ขั้นต่ำจำนวน 603,806,875 บาท จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่บนคลื่นความถี่ 1800 เมกกะเฮิรตซ์ และ 850 เมกกะเฮิรตซ์ ในช่วงประกาศระยะเวลาคุ้มครองผู้ใช้บริการ ตามที่ สำนักงาน กสทช.มีหนังสือเรียกเก็บ เพื่อนำเงินส่งเป็นรายได้ของแผ่นดินต่อไป
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DTAC กล่าวด้วยว่า จากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เตรียมใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งช่วยเหลือผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ขยายระยะเวลาการชำระเงินค่าประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ งวดที่ 4 (งวดสุดท้าย) ออกไปนั้น เป็นสิ่งที่ดีที่ภาครัฐมีความเข้าใจและตั้งใจช่วยเหลือผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทำให้ลดภาระของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไปได้อย่างมาก แต่อย่างไรก็ดี ขณะนี้บริษัทฯ ยังไม่ทราบรายละเอียดของประกาศดังกล่าว โดยยังคงติดตามใกล้ชิด และรอดูเงื่อนไขที่ชัดเจนก่อน