บล.กสิกรฯ คาดงบไตรมาส 1/62 กลุ่ม รพ.รับแรงหนุนโรคระบาด ภาพรวมทั้งปีเติบโตต่อเนื่อง ชู BCH เด่น

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday April 10, 2019 17:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.ปิยะฉัตร รัตนสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส บล.กสิกรไทย กล่าวว่า บริษัทยังมีมุมมองเป็นกลางต่อกลุ่มโรงพยาบาล โดยคาดการณ์รายได้ธุรกิจโรงพยาบาลในไตรมาส 1/62 จะมีรายได้ที่ 3.13 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.1% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยได้แรงหนุนส่วนหนึ่งมาจากการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่และโรคท้องร่วง ทำให้คาดว่าทุกโรงพยาบาลจะมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดย BCH และ RJH จะมีรายได้ที่เติบโตขึ้น

ขณะที่แนวโน้มไตรมาส 2/62 เป็นช่วงโลว์ซีซั่นที่มีวันหยุดมาก ทำให้กำไรลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/62 อย่างไรก็ตาม ทุกบริษัทจะมีการบันทึกสำรองผลประโยชน์ของพนังงานหลังเกษียณในไตรมาส 2/62 เพราะกฎหมายมีผลบังคับใช้ในเดือนพ.ค.นี้ ซึ่งจะทำให้ค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร (SG&A) สูงขึ้นและกดดันกำไรสุทธิของบริษัท แต่ไม่น่าจะกระทบ EBITDA

แนวโน้มผลประกอบการทั้งปี คาดว่ารายได้ธุรกิจโรงพยาบาลโดยรวมจะเติบโตขึ้น 7.8% ในปี 62 และ 7.7% ในปี 63 สอดคล้องกับ 7.7% ในปี 61 โดยคาดว่าการเติบโตของผู้ป่วยในกลุ่มเงินสดที่ 5-9% ทั้งที่เป็นชาวไทยและชาวต่างช่าติ และการเติบโตของรายได้กลุ่มประกันสังคมที่ฟื้นตัวขึ้นเป็น 2-7% ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนรายได้ของธุรกิจในกลุ่มโรงพยาบาลในปี 62-63 คาดว่าทุกโรงพยาบาลจะมีส่วนแบ่งการตลาดที่ทรงตัวถึงสูงขึ้น ยกเว้น BH ที่คาดว่าจะสูญเสียส่วนแบ่งการตลาด

ขณะที่ภาพรวมกำไรของหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลจะมีภาพคละกัน มีเพียง BCH และ BDMS ที่คาดว่าจะมีอัตรากำไรขาขึ้น ทั้งในแง่ของการดำเนินงานและกำไรสุทธิ โดยได้รับแรงหนุนจากการขยายกิจการที่ขยายใหญ่ขึ้น ส่วน CHG และ PR9 จะมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลง จากการเปิดให้บริการโรงพยาบาลแห่งใหม่ที่ก่อให้เกิดต้นทุนที่สูงขึ้น ขณะที่คาดว่าอัตรากำไรของ THG จะมีความผันผวนมากที่สุด จากแผนการกระจายความเสี่ยงของบริษัท ส่วน RJH คาดว่าจะมีอัตรากำไรที่ปรับดีขึ้นในแง่ของกำไรสุทธิ แต่อัตรากำไรจากการดำเนินงานจะมีความผันผวน

ด้านมาตราการควบคุมราคา ทางฝ่ายวิจัยเชื่อว่าคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) จะไม่ออกมาตราการที่กระทบต่อการกำหนดราคายา เวชภัณฑ์หรือบริการทางการแพทย์ของโรงพยาบาลเอกชน อย่างไรก็ตามรัฐบาลได้ทำการตรวจสอบธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีข้อสรุปเพิ่มเติม โดยองค์กรคุ้มครองผู้บริโภคอาจเรียกร้องมาตราการเชิงรุกมากขึ้น อย่างไรก็ดีเลือก BCH เป็นหุ้นเด่นของกลุ่ม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ